สุราษฎร์ธานี - ไล่ล่าระทึก 3 โจ๋ซิ่งรถยนต์ซุกยาบ้า 2,000,000 เม็ด จาก อ.หลังสวน จ.ชุมพร หนีตำรวจทางหลวง สุดท้ายจนมุมในพื้นที่อำเภอท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี รับสารภาพเป็นแค่รับจ้างขับรถส่งของ ได้ค่าจ้างครั้งละ 40,000 บาท ทำมา 3 ครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายไม่รอด
เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (31 ส.ค.) ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ 4 (ชุมพร) กองกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง กำลังออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบบริเวณแยกวังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ป้ายทะเบียน 6185 กรุงเทพมหานคร สังเกตเห็นว่ารถคันดังกล่าว มีสภาพคล้ายบรรทุกของหนัก จึงขับรถยนต์สายตรวจตามเพื่อตรวจค้น
แต่เมื่อคนขับเห็นรถตำรวจทางหลวงขับตามมาจึงรีบเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงขับไล่ตามอย่างกระชั้นชิด รถคันดังกล่าวได้ขับเข้าพื้นที่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจทางหลวงจึงแจ้งประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรท่าชนะ ให้ช่วยตั้งด่านสกัดจับที่บริเวณ 4 แยกท่าชนะ หรือสี่แยกหนองนิล ขาล่องใต้ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี รถผู้ต้องสงสัยจึงขับรถเลี้ยวซ้ายหนีเข้าในบริเวณตลาดท่าชนะ
โดยมีรถตำรวจทางหลวงไล่ตามประกบหลัง แต่เนื่องจากคนขับรถต้องสงสัยไม่ชำนาญเส้นทางจึงขับมาถึงทางตัน บริเวณบ้านตลาดตก ม.1 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ช่วงคอสะพานซ่อมก่อนข้ามทางรถไฟท่าชนะ จึงกลับรถเพื่อที่จะไปอีกเส้นทาง แต่ตำรวจทางหลวงชุมพร ที่ติดตามนำรถเข้าขวาง ซึ่งคนขับรถกลับเร่งเครื่องยนต์หลบหนี จึงขับไปชนกับรถยนต์ของตำรวจที่เข้าไปช่วยสกัดจับ
เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงยางรถคันดังกล่าว เพื่อสกัดการหลบหนี สุดท้ายสามารถควบคุมตัวบุคคลภายในรถได้ พบว่าเป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ทราบชื่อต่อมา นายนริศ หรือเพชร เพชรขำ อายุ 21ปี น.ส.มุก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และนายวิชิตา หรือเหมา กลิ่นกัณหา อายุ 23 ปี ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าจำนวน 2 ล้านเม็ด จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.ท่าชนะ
จากการสอบถาม นายเพชร กล่าวว่า ตนเองเป็นคนกรุงเทพมหานคร จะเดินทางไปหาลูกที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เลยรับจ้างขนยาเสพติดมาพร้อมกับการเดินทางของตน ซึ่งไปรับยาเสพติดมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อไปส่งให้คนนัดรับ เป็นผู้หญิง มีอายุ รูปร่างผมสั้น ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง แถววัดโมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
โดยนายเพชร กล่าวเพิ่มเติมว่า รับจ้างขนยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ได้รับค่าจ้างจำนวน 40,000 บาทต่อครั้ง โดยจะมีรถนำทางคอยโทร.บอกทางตลอด ซึ่งตนไม่ทราบชื่อ และก่อนหน้านี้ตนเองเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติมาประมาณ 2 ปี
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าชนะ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป