นครศรีธรรมราช - หลายหมู่บ้านใน ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เดือดร้อนจากช้างป่าออกหากินในพื้นที่เกษตรกรรม ทำลายผลผลิตทางการเกษตร จี้กรมอุทยานฯ เร่งหาทางแก้ปัญหา หลังสร้างความเสียหายนานกว่า 4 เดือนแล้ว
ภาพมุมสูงในพื้นที่เกษตรกรรมที่เชื่อมต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติเขานัน อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ในพื้นที่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีพื้นที่สวนทุเรียน สวนยางพารา และสวนผลไม้จำนวนมาก พื้นที่เหล่านี้กำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากช้างป่าเพศผู้ เป็นช้างโทน หรือช้างเพศผู้หากินตัวเดียวที่แตกจากโขลงมาอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมย่านนี้มากว่า 4 เดือนแล้ว โดยสร้างความเสียหายอย่างหนักให้พืชสวนจำนวนมาก เช่น ทุเรียน ยางพารา ไม้ผลชนิดต่างๆ ซึ่งล่าสุดนั้นได้สร้างความหนักใจให้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น รวมทั้งเกษตรกรในพื้นที่ เนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้เวลาเก็บเกี่ยวทุเรียนทวาย นอกจากนั้น ยังหวั่นเกรงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการที่ชาวบ้านไปกรีดยางพาราในช่วงดึก อาจเจอกับช้างแล้วเสี่ยงต่อการถูกช้างทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตได้
ส่วนความเคลื่อนไหวของช้างป่าตัวนี้ ล่าสุดนั้นอยู่ย่าน 7 หมู่บ้านที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกันใกล้เคียงทางเข้าน้ำตกกรุงชิง ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ ชาวบ้านยืนยันว่าพฤติกรรมของช้างป่าตัวนี้ไม่เหมือนกับช้างป่าโดยทั่วไป จะมีความฉลาดสูงมาก อาศัยอยู่ในป่าลึกช่วงกลางวัน แต่พอตกกลางคืนจะออกมาจากป่า ตระเวนหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน หลายคนมีข้อมูลตรงกันว่าช้างป่าตัวนี้เดิมอาจเป็นช้างเลี้ยงของควาญคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ย่านเขตรอยต่ออุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ฝั่ง จ.สุราษฎร์ธานี แต่เป็นช้างเถื่อน หรือช้างที่ไม่มีตั๋วรูปพรรณ ต่อมาเจ้าของได้เสียชีวิตลง ช้างตัวนี้ไม่มีใครรับช่วงเลี้ยงต่อ หรืออาจควบคุมช้างไม่ได้จึงได้ปล่อยเข้าป่าไป จนเดินเรื่อยมาอาศัยอยู่ในเขตชุมชน สร้างความเดือดร้อนอย่างกว้างขวางดังกล่าว
นายยุทธศักดิ์ นาสนิท เจ้าของสวนทุเรียนรายหนึ่งใน ต.กรุงชิง เปิดเผยว่า ช้างตัวนี้ป้วนเปี้ยนอยู่ในชุมชนย่านนี้กว่า 4 เดือนแล้ว อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องนำช้างออกไปจากพื้นที่ เนื่องจากพฤติกรรมช้างที่มาอาศัยอยู่ในชุมชนแตกต่างจากช้างป่าโดยทั่วไปที่อาศัยอยู่ในป่าลึก ไม่หลงมาในพื้นที่เกษตร ก่อนหน้านี้กรมอุทยานฯ ได้ยิงยาสลบติดตั้งระบบสัญญาณจีพีเอส ระบุตำแหน่งของช้างเพื่อแจ้งเตือนชาวบ้าน หรือหาทางป้องกันการเข้าพื้นที่ แต่ล่าสุดนั้นสัญญาณเสีย ไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ ต้องรอการแจ้งมาจากกรมอุทยานฯ ส่วนกลาง ซึ่งไม่ทันการณ์ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
ขณะที่ นางมงคล ภักดีสุวรรณ์ นายอำเภอนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้มีการรายงานความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ไปอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้มีข้อเสนอมาตรการสุดท้าย คือ การหาทางเคลื่อนย้ายช้างออกไปจากพื้นที่ ผ่านไปยังกรมอุทยานแห่งชาติแล้ว แต่ยังไม่ทราบผลว่าจะดำเนินการอย่างไร