ตรัง - หนุ่มตรังแจ้งความตามหากระเป๋าตกหล่น ภายในมีเงินกว่า 7 พันบาท ภาพวงจรปิดพบ 2 สาวเก็บเอาไปบริเวณหน้าร้านแห่งหนึ่งใน อ.ห้วยยอด เจ้าของทุกข์หนักวอนให้ช่วยนำมาคืน เพราะตั้งใจจะนำเงินส่วนนี้ไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ
ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก นายภัทรวรรธน์ รอดจันทร์ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของ นางสุนิสา รอดจันทร์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 หมู่ 2 ต.ทุ่งต่อ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ให้ช่วยติดตามกระเป๋าผ้าสีส้ม และกระเป๋าสตางค์ทำด้วยหนังสีม่วง ลักษณะทรงสี่เหลี่ยม ภายในกระเป๋ามีเงินสด จำนวน 7,010 บาท พร้อมด้วยบัตรประจำตัวประชาชน โดยได้ทำหล่นที่บริเวณหน้าร้านเตือนใจ สาขาห้วยยอด (ตลาดนัดควนหนังขำ) ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้าน พบว่า มีผู้หญิง 2 คน ได้มาซื้อของที่ร้าน และได้พบกระเป๋าทั้ง 2 ใบนั้น โดยคนที่หนึ่งเป็นผู้หญิงลักษณะผิวคล้ำ สวมชุดคลุมท้องสีเลือดหมู ส่วนคนที่ 2 เป็นผู้หญิงวัยกลางคน สวมเสื้อสีขาวฟ้า ซึ่งจากภาพกล้องวงจรปิดพบว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนหยิบกระเป๋าทั้ง 2 ใบไป ซึ่งขณะนี้ทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ห้วยยอด เรียบร้อยแล้ว จึงขอให้ผู้หญิงทั้ง 2 คน ได้ช่วยติดต่อคืนกระเป๋าดังกล่าวได้ที่เบอร์ 06-5954-7495 หรือ 06-3652-2636 หรือนำมาคืนได้ที่ สภ.ห้วยยอด โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 เวลา 12.00 น.
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถาม นายภัทรวรรธน์ รอดจันทร์ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของ นางสุนิสา รอดจันทร์ อายุ 53 ปี ที่ได้ทำกระเป๋าหล่นหาย และไปชี้ยังจุดเกิดเหตุที่กระเป๋าตก พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เหตุเกิดเมื่อประมาณวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ตอนช่วงเวลาประมาณเที่ยง ขณะนั้นคุณแม่ได้ออกไปซื้อของที่ร้านเตือนใจ แถวตลาดนัดควนหนังขำ และได้ทำกระเป๋าตก 2 ใบด้วยกัน เป็นกระเป๋าผ้าสีส้ม และกระเป๋าสตางค์ ซึ่งในนั้นมีเงินสดอยู่เกือบ 10,000 บาท
จากนั้นได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดจากที่ร้าน เห็นว่ามีคนหยิบไป คนแรกคาดว่าน่าจะเป็นคนท้อง เพราะเห็นลักษณะใส่ชุดคลุมท้องสีเลือดหมู อีกคนสวมเสื้อสีขาวลายฟ้า และได้ขี่รถจักรยานยนต์สีดำแดงออกมาจากร้านค้า ซึ่งระยะเวลาไล่เลี่ยกันประมาณ 3-5 นาที ที่แม่ของตนออกมาจากร้าน หลังจากที่รู้ตัวว่ากระเป๋าหายรีบกลับมายังที่เกิดเหตุ แต่พบว่ากระเป๋าไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ซึ่งตอนนี้ได้เข้าแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว และได้ขอใบอนุญาตจากตำรวจเพื่อที่จะดึงภาพจากกล้องวงจรปิดตรงนั้นออกมา
นายภัทรวรรธน์ กล่าวว่า ตอนนี้หลายวันแล้วที่ยังไม่ได้ของคืน ซึ่งเงินในส่วนตรงนี้ แม่ตั้งใจจะเก็บไว้ไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ แต่มาแวะซื้อของก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟเลย และแม่ตัวเองเป็นแค่ชาวสวนทั่วไป ไม่มีรายได้อะไรมากมาย ดังนั้น ตนจึงอยากจะขอฝากผู้หญิงทั้ง 2 คน ที่เอากระเป๋าสตางค์ของคุณแม่ไป อยากให้เอามาคืนด้วย เพราะตอนนี้แม่เดือดร้อนเหมือนกัน ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ และเงินเยอะอยู่
อย่างไรก็ตาม สำหรับหญิงสาวทั้ง 2 คน ที่เอากระเป๋าสตางค์ไป จากการสอบถามชาวบ้านแถวนั้น และร้านค้าต่างไม่คุ้นหน้า น่าจะเป็นลูกค้าใหม่ แต่หากยังไม่เอาเงินมาคืนใน 7 วัน หลังจากนี้ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ถ้าเอามาคืนจะไม่ดำเนินการอะไร จึงอยากฝากทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตาให้แม่ของตนด้วย
