ตรัง - นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคตรัง ประดิษฐ์ดอกไม้ของที่ระลึก “บุหงาพารา” โดยการนำน้ำยางมาแปรรูปผ่านกระบวนต่างๆ ทำให้ได้ช่อดอกไม้ที่แลดูสวยงาม แปลกตา และคงทนกว่าการผลิตโดยใช้วัสดุอย่างอื่น
“จังหวัดตรัง” เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากในแต่ละปี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีความงดงาม มีประวัติศาสตร์ ประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม ทำให้มีของที่ระลึกเกิดขึ้นมามากมาย ดังนั้น แผนกวิชาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ วิทยาลัยเทคนิคตรัง จึงมีแนวคิดที่จะใช้น้ำยางธรรมชาติ ซึ่งผลิตในจังหวัดมาศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า “บุหงาพารา” ด้วยการนำน้ำยางพาราที่ผสมสารเคมี โดยการแปรซิลิกาที่ปริมาณต่างกัน แล้วทำให้คงรูปเพื่อเพิ่มความหนา ความแข็งแรง ความทนทาน จึงสามารถนำมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้ของที่ระลึกในโอกาสต่างๆ ได้ ซึ่งกระบวนการทำไม่ซับซ้อน เกษตรกรสามารถทำเองได้ในครัวเรือน และสร้างองค์ความรู้ไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ
สำหรับกระบวนการทำผลิตภัณฑ์บุหงาพารา เริ่มต้นจากการผสมน้ำยาง และสารเคมีสำหรับน้ำยาง ก่อนเติมสีสันตามต้องการ จากนั้นตัดกลีบดอกไม้ โดยใช้กระดาษชำระ ตามลักษณะหรือรูปแบบของดอกไม้ แล้วคลี่กระดาษเป็น 2 ส่วน ก่อนใช้ลวดพันก้านวางระหว่างกระดาษแผ่นล่าง และกระดาษแผ่นบน ต่อจากนั้นนำกลีบดอกไม้จุ่มในน้ำยางอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ ดึงขึ้นมา ก่อนนำกลีบดอกไปอบด้วยตู้อบลมร้อนที่อุณหภูมิ 70-80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที เมื่อครบเวลาที่กำหนดให้นำกลีบดอกออกจากตู้อบ วางไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้กลีบดอกเย็น จากนั้นนำเข้าประกอบเป็นช่อดอก ตามขนาดและรูปแบบที่ต้องการ ทำให้ได้ดอกไม้ที่แลดูสวยงาม แปลกตา และคงทนกว่าการผลิตโดยใช้วัสดุอื่น
นายสุรศักดิ์ เทพทอง ตำแหน่งวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ในฐานะหัวหน้าแผนกวิชาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ วิทยาลัยเทคนิคตรัง กล่าวว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์บุหงาพารา ซึ่งใช้น้ำยางเป็นวัตถุดิบหลักผสมสารเคมีนั้น สามารถผลิตให้ดอกไม้มีสีสันได้ตามต้องการ และขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ด้วยกระบวนการจุ่ม พร้อมทั้งนำเข้าตู้อบลมร้อนเพื่อให้เกิดการวัลคาไนซ์ ทำให้กลีบดอกมีลวดลายต่างๆ โดยไม่ต้องนำมาอัดด้วยแม่พิมพ์ร้อน เพื่อให้กลีบดอกมีลวดลายต่างๆ ซ้ำอีก เป็นการลดขั้นตอนการผลิต นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังมีความแข็ง ทนทาน ไม่ฉีกหรือขาดง่าย จึงเหมาะต่อการนำมาตกแต่งอาคารสถานที่ ห้องทำงาน ห้องพัก หรือมอบเป็นของที่ระลึกในโอกาสพิเศษต่างๆ ได้ ถือเป็นการนำน้ำยางพารา ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ให้ออกมาในรูปแบบงานฝีมือ หรืองานประดิษฐ์ที่มีคุณค่าทางด้านจิตใจ คุณค่าทางสติปัญญา และคุณค่าทางประโยชน์ใช้สอย ที่สำคัญคือช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการนำยางพารามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ทั้งนี้ “บุหงาพารา” จะมีการขายเป็นดอก เป็นก้าน เพื่อนำไปจัดแจกัน ในราคาดอกก้านละ 50-90 บาท หรือขายเป็นชุดในราคากล่องละ 250-300 บาท แล้วแต่ความยากง่ายของดอกไม้แต่ละชนิดที่นำมาประดิษฐ์ โดยตลาดสำคัญคือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเยือน จ.ตรัง รวมทั้งนำไปมอบให้เป็นของที่ระลึกในโอกาสต่างๆ และนำไปตกแต่งในสำนักงาน หรือบ้าน เป็นต้น ผู้สนใจสอบถามได้ที่แผนกวิชาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ วิทยาลัยเทคนิคตรัง โทร. 0-7550-1027


