กระบี่ - ชาวบ้านโล๊ะดุหยง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ร้อง ส.ส.ช่วยสางปัญหาที่ดิน นสล.ทุ่งโคกทราย หลังถูกนายทุนอ้างสิทธิครอบครอง มีทั้งกุโบร์ สนามบอล และสระน้ำ
จากกรณีชาวบ้าน ม.5 บ้านโล๊ะดุหยง ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ได้เรียกร้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการบุกรุกที่สาธารณะ (ที่ นสล.) ทุ่งโคกทราย หลังพบว่ามีนายทุนขึ้นป้ายอ้างสิทธิครอบครอง ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีทั้งสนามฟุตบอล กุโบร์ (สถานที่ฝังศพของชาวมุสลิม) รวมเนื้อที่กว่า 34 ไร่เศษ แต่หลังจากมีการร้องเรียนเรื่องกลับเงียบ ไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เดินทางลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านโล๊ะดุหยง ที่มัสยิดโล๊ะดุหยง เพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น โดย นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า ก่อนลงพื้นที่ตนได้สอบถามข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ นสล.ไม่มีใครเอาไปเป็นกรรมสิทธิ์ได้ ไม่ว่าคนนั้นจะครอบครองนาน 10 หรือ 20 ปี ก็ยังเป็นของรัฐ
ส่วนกรณีที่มีคนไปแอบอ้างสิทธิในที่ดินนั้น ได้สรุปได้ว่า มีการสืบพยาน โดยคนที่ไปอ้างสิทธิครอบครองถูกฟ้องบุกรุก แต่ขาดเจตนา แต่เขายอมรับว่าบุกรุก แล้วแพ้คดี ที่ตรงนั้น ยังเป็นของรัฐ ชาวบ้านมีสิทธิใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นของใครไม่ได้
ถ้าที่ดินดังกล่าวตกเป็นของนายทุนหรือคนหนึ่งคนใดตนไม่ยอม โดยที่ผ่านมา ทางชาวบ้านได้มีการพูดคุยหาทางออกกันมาโดยตลอด และทางเทศบาลตำบลเกาะลันตาใหญ่ จะทำการตรวจวัดแนวเขตและปักหลักเขตให้ชัดเจน แต่เรื่องยังเงียบ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะรับเรื่องไปกระตุ้นส่วนกลาง โดยจะนำเรื่องไปปรึกษาหารือในสภาต่อไป
สำหรับพื้นที่เกาะลันตา มีหลายแห่งที่เป็นที่หลวงที่กำลังถูกบุกรุกจากนายทุน ไม่ว่าจะเป็นเกาะนุ้ยนอก ซึ่งตอนนี้ถึงแม้ว่าจะมีเพิกถอนเอกสารสิทธิแล้ว แต่ยังไม่มีการนำตัวคนทำผิดมาลงโทษ ซึ่งตนจะติดตามเรื่องต่อไปจนถึงที่สุด
ด้านนายอภิชาติ กสิคุณ อายุ 66 ปี ชาวบ้าน ม.5 บ้านโล๊ะดุหยง กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่นายทุนเข้าไปขึ้นป้ายอ้างสิทธิครอบครอง เป็นพื้นสาธารณะ (พื้นที่ นสล.) ทุ่งโคกทราย เนื้อที่ประมาณ 34 ไร่ 2 งาน 12 ตารางวา ที่ดินเลขที่ 222 ออกเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ปี 2534 ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ไม่กล้าเข้าไปใช้ประโยชน์เพราะกลัวความผิด ทั้งๆ ที่ภายในพื้นที่มีสนามฟุตบอล กุโบร์ และสระน้ำของหมู่บ้าน
พวกตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำที่ดินกลับมาให้ชาวบ้านโดยเร็ว โดยที่ผ่านมา ทางนายบัญญัติ ก๊กใหญ่ ผู้ใหญ่บ้านได้ประชุมชาวบ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทางเทศบาลตำบลเกาะลันตาใหญ่ เจ้าของพื้นที่ รับปากว่าจะทำหนังสือถึงที่ดินให้มารังวัด ลงหลักปักเขตที่ดินให้ชัดเจน ไม่เกิน 10 วัน แต่ผ่านมาจะ 1 เดือนแล้ว เรื่องยังเงียบ ชาวบ้านเลยต้องฝาก ส.ส.ให้ติดตามเรื่องให้ต่อไป