xs
xsm
sm
md
lg

เตือนภัย! เจ้าของเต็นท์รถที่กระบี่ถูกมิจฉาชีพหลอกขายรถสูญเงินหลายแสนบาท เชื่อยังตระเวนหาเหยื่อในภาคใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระบี่ - เจ้าของเต็นท์รถมือสองใน จ.กระบี่ ถูกมิจฉาชีพหลอกขายรถยนต์ หลอกให้โอนเงินเสียหายหลายแสนบาท เตือนเจ้าของเต็นท์รถอย่างหลงเชื่อการซื้อขายรถผ่านโซเชียล เชื่อมิจฉาชีพยังตระเวนหาเหยื่อในพื้นที่ภาคใต้

วันนี้ (26 ส.ค.) นายวิทยา เขียวน้อย เจ้าของเต็นท์รถเอกยนตรการ เลขที่ 171 ม.2 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ได้นำเอกสารหลักฐานการพูดคุยกับมิจฉาชีพหลอกขายรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์มาให้ผู้สื่อข่าวเพื่อช่วยเตือนภัย หลังจากที่โดนมิจฉาชีพหลอกให้ซื้อรถยนต์มือสองที่ติดต่อให้ ก่อนสูญเงินหลายแสนบาทให้มิจฉาชีพ

นายวิทยา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64 มีคนทักแชตใช้ชื่อโปรไฟล์เฮียหนึ่ง คาสิโนออนไลน์ มาว่า ต้องการจะขายรถยนต์ 1 คัน เป็นรถของญาติอยู่ในพื้นที่ จ.กระบี่ ยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น ตนขอดูรูปรถ มิจฉาชีพส่งรูปมาให้ดู บอกว่าขายที่ราคา 500,000 บาท ได้ต่อรองสรุปราคากันที่ 390,000 บาท จากนั้นมิจฉาชีพบอกให้ตนช่วยไปดูรถพร้อมกับส่งเบอร์โทรศัพท์เจ้าของรถพร้อมโลเกชัน ตนก็เดินทางไปดูรถ อยู่ในพื้นที่ ต.ห้วยยูง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เมื่อไปถึงพบกับเจ้าของรถและรถคันดังกล่าวซึ่งมีเจ้าของเป็นอดีตข้าราชการครูเกษียณ มีรถอยู่จริง ป้ายทะเบียน โลเกชั่นตรงตามที่มิจฉาชีพแจ้งมาทุกอย่าง หลังจากดูรถเสร็จตนตกลงซื้อในราคา 390,000 บาท ตามที่ได้ตกลงไว้ และได้ทำการเขียนสัญญาซื้อขาย

และพร้อมจะโอนเงินให้โดยถามเจ้าของรถว่าจะให้โอนเงินเข้าบัญชีไหน ทางเจ้าของรถบอกว่าให้คุยกับลูกเขย (สมมติชื่อเอ) เนื่องจากนายเอ เป็นคนขายรถ แต่ขณะนั้นนายเอ ไม่อยู่ กำลังเดินทางมาจาก อ.เกาะลันตา ตนนั่งรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง นายเอ มาถึงและได้พูดคุยราคาตกลงกันตามที่ได้ตกลงกับมิจฉาชีพที่ราคา 390,000 บาท หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จถามนายเอ ว่าจะให้โอนเงินเข้าบัญชีไหน นายเอ บอกว่าโอนเงินเข้าบัญชีที่เขาแจ้งพี่มาเลย ตนก็เขียนเลขบัญชีลงในสัญญาเรียบร้อย พร้อมกับโอนเงินเข้าบัญชี ฃชื่อ น.ส.พิณทิพย์ ช่อฟ้า ธนาคารกรุงไทย


หลังจากโอนเงินเสร็จ นายเอ บอกว่า ให้คอยก่อน 10 นาทีเพื่อรอให้เจ้าของบัญชีโอนเงินกลับมาให้ หลังจากที่คอยอยู่นานไม่มีเงินโอนเข้ามา และพยายามโทร.ติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ถูกบล็อกการติดต่อทุกทาง เชื่อว่าถูกหลอกแล้ว และตนได้ถามนายเอ ว่ารู้จักกันไหมกับเจ้าของไลน์ชื่อดังกล่าว นายเอ บอกว่ารู้จักและเป็นเพื่อนตน ซึ่งตนถามอีกว่าแล้วทำไมให้โอนเงินเข้าบัญชีนั้น ทั้งที่ไม่ใช่บัญชีตัวเอง นายเอ บอกว่ามิจฉาชีพบอกเขาว่า ตนโอนเงินมัดจำไปให้เขา (มิจฉาชีพ) แล้ว 100,000 บาท ที่เหลืออีก 390,000 บาท ให้ตนโอนไปให้เขาอีกทีหนึ่งแล้วเขาจะโอนกลับมาให้เจ้าของรถ เชื่อว่าน่าจะโดนหลอกแล้ว

หลังจากนั้น นายเอ เลยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เหนือคลอง ส่วนตนไปเป็นพยาน แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า และต่อมานายเอ ได้ฟ้องศาลว่าตนมีการซื้อขายรถกันโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ถึงแม้ว่าเขียนสัญญาถูกต้องจริงแต่เจ้าของรถไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว และเมื่อ 7 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ตนยอมจ่ายเงินให้นายเอ เพิ่มอีกเพราะคิดว่าน้องเขาเป็นผู้ที่เสียหายหนัก เสียทั้งรถทั้งเงิน แต่ตนได้รถมาแล้วเลยมีการพูดคุยกันว่าตนจ่ายเงินให้น้องอีกครึ่งหนึ่งจากค่าเสียหายต่อหน้าศาล


ตนมองว่าตนทำธุรกิจในจังหวัดกระบี่ และผู้เสียหายเป็นคนในจังหวัดกระบี่ โดนมิจฉาชีพหลอกลวงเสียหายต้องช่วยเหลือกันก่อน เรื่องกำไรขาดทุนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะขายรถผ่านโซเชียลในการโอนเงินซื้อรถทุกครั้งต้องโอนเงินเข้าบัญชีเจ้าของรถเท่านั้น และจะต้องมีการตรวจสอบสลิปก่อนทุกครั้งว่ามีเงินเข้าจริงหรือไม่ทั้งผู้ขาย และผู้ซื้อ ไม่อย่างนั้นแล้วจะเป็นเหมือนลักษณะเดียวกับตนและเจ้าของรถ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเพื่อนคนอื่นที่ทำเต็นท์รถด้วยกันในพื้นที่ จ.ตรัง ก็ถูกหลอกลักษณะคล้ายกับตน ฝากเตือนทั้งเจ้าของเต็นท์และผู้ขายรถให้ระวังเพราะมิจฉาชีพกลุ่มนี้กำลังระบาดในภาคใต้


กำลังโหลดความคิดเห็น