xs
xsm
sm
md
lg

ขึ้นอีกแล้ว! ชาวเบตงโอดไข่ไก่ปรับราคาแผงละ 3 บาท ผัก-เนื้อหมูยังแพง สวนทางรายได้ไม่พอจ่าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยะลา - ชาวเบตงบ่นอุบไข่ไก่ขึ้นราคาอีกแล้วแผงละ 3 บาท แถมราคาผัก และเนื้อหมูยังคงราคาสูง ประชาชนโอดค่าครองชีพ และสินค้าต่างพาเหรดขึ้นราคาแทบทุกอย่าง สวนทางกับรายได้ที่แทบไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว

วันนี้ (17 ส.ค.) ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา จากการสำรวจราคาตามแผงขายไข่ไก่ ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารของประชาชน พบว่า มีการปรับราคาขึ้นอีกแผงละ 3 บาท โดยราคาไข่ไก่เบอร์ 1 ราคาขายเพิ่มขึ้นเป็นแผงละ 127 บาท จากเดิม 124 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาขายเพิ่มขึ้นเป็นแผงละ 122 บาท จากเดิม 119 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาขายเพิ่มขึ้นเป็นแผงละ 118 บาท จากเดิม 115 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกไข่ไก่ตามตลาดสด และร้านค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นด้วย

โดยที่ร้านไข่ไก่สดใหม่ ถนนสุขยางค์ ในเขตเทศบาลเมืองเบตง ซึ่งเป็นร้านขายส่ง พบว่าราคาขายปลีกไข่ไก่เบอร์ 0 และเบอร์ 4 มีจำหน่าย ขณะที่ไข่ไก่เบอร์ 1 เบอร์ 2 และเบอร์ 3 ปรับขึ้นแผงละ 3 บาท นายนิสิต เปาะเฮาะ เจ้าของร้านไข่ไก่สดใหม่เบตง บอกว่า ในอาทิตย์หน้าจะมีการปรับขึ้นอีกแผงละ 3 บาท ซึ่งตอนนี้ไข่ไก่ที่ร้านเป็นของชุดเก่า ยังไม่ปรับราคา แต่อาทิตย์หน้าจะมีการปรับราคาขึ้นแผงละ 3 บาท

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า นอกจากไข่ไก่ที่ปรับราคาขึ้นแล้ว ในส่วนของพืชผักต่างๆ อย่างผักชี ต้นหอม และขึ้นฉ่าย มีการปรับราคาขึ้นเช่นกัน จากเดิมขึ้นฉ่าย กก.ละ 180 บาท ล่าสุดมีการปรับราคาขึ้นเป็น กก.ละ 230 บาทแล้ว โดยแผงขายผักตามตลาดสดทั่วไปที่นำไปแบ่งขายปลีกต้องขึ้นราคาขายตามไปด้วย ขณะที่หมูเนื้อแดง กก.ละ 230 บาท หมูสามชั้น กก.ละ 230 บาท เล้ง กก.ละ 200 บาท กระสันหมู กก.ละ 200 บาท และขาหมู กก.ละ 160 บาท


ส่วนแม่ค้าขายข้าวขาหมู บอกว่า วัตถุดิบที่นำมาทำอาหารขายต่างก็ขึ้นราคาหมด แต่ที่ร้านยังคงขายจานละ 40 บาท เพราะเห็นใจลูกค้า ที่ในยุคนี้มีแต่สินค้าปรับราคา แต่ค่าแรงและสินค้าทางการเกษตร เช่น ยางพารา น้ำยางสดอยู่ที่ กก.ละ 51.30 บาท ยางก้อนถ้วย กก.ละ 49 บาท ยางแผ่นดิบคุณภาพดี กก.ละ 52.96 บาท และยางแผ่นรมควันชั้น 3 (ไม่อัดก้อน) กก.ละ 56.30 บาท

ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคที่ต่างต้องปรับตัวในการเลือกซื้อ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลงให้ได้มากที่สุด ทั้งการลดปริมาณการซื้อ แต่หันมาเลือกซื้อ เช่น ไข่ไก่ที่ฟองเล็กลง และราคาถูก และเลือกซื้อผักเฉพาะทำแต่ละมื้อ เป็นต้น

จากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนต่างมีเสียงสะท้อนไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัจจุบันค่าครองชีพ และราคาสินค้าต่างปรับราคาขึ้นทุกอย่าง และอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับรายได้ที่ประชาชนหามาได้ และจะนำมาใช้จ่ายในครอบครัวแทบไม่พอ ซึ่งอยากให้ทางรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนให้ได้โดยเร็วที่สุด หรือหามาตรการมาช่วยเหลือเพื่อพยุงให้ประชาชนอยู่ได้ต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น