กระบี่ - ชาวบ้านรวมตัวเข้าแจ้งความ หลังฝากเงินกับเครือข่ายกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ฯ ชุมชนเขาคราม จ.กระบี่ นานกว่า 20 ปี แต่ไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ มีผู้เสียหายกว่า 70 ราย วงเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
วันนี้ (17 ส.ค.) น.ส.วรรณา มาศรักษา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213 ม.2 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ พร้อมด้วยสมาชิกและตัวแทนสมาชิกเครือข่ายกลุ่มสัจจะออมทรัพย์เพื่อพัฒนาวิถีชีวิตชุมชนตำบลเขาคราม ม.2 ต.เขราคราม อ.เมือง จ.กระบี่ กว่า 10 คน ที่ได้รับความเสียหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง ภายหลังไม่สามารถเบิกถอนเงินที่ฝากไว้กับเครือข่ายกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ฯ ได้ มีสมาชิกที่ได้รับความเสียหายหลายราย วงเงินกว่า 1,300,000 บาท โดยมี พ.ต.ท.วรยุทธ ฟ่องสุทธิพิทักษ์ สว.(สอบสวน) สภ.อ่าวนาง ร.ต.อ.ณกรณ์ ชาติภัย รอง สว.(สอบสวน) เป็นผู้รับเรื่อง พร้อมให้คำแนะนำผู้เสียหายรวบรวมรายชื่อ และเอกสารหลักฐานเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย
น.ส.รรณา กล่าวว่า ตนและคนในครอบครัวได้เป็นสมาชิกเครือข่ายกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ฯ มานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยฝากเงินไว้กับกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ฯ จำนวน 60,000 กว่าบาท ซึ่งที่ผ่านมา มีการกู้และผ่อนชำระมาโดยตลอด ในช่วงแรกๆ ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อประมาณวันที่ 4 เม.ย.65 ที่ผ่านมา ตนได้นำเงินไปฝากที่สำนักงาน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.2 ต.เขาคราม แต่นายห้าหรน กูลหลัง ประธานกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ฯ บอกว่า ไม่สามารถรับฝากได้ เนื่องจากทางกลุ่มมีปัญหาด้านการบริหารงาน และตอนนี้ไม่มีเงินที่จะให้สมาชิกเบิกถอนด้วย โดยนายห้าหรน อ้างว่า สาเหตุที่ถอนไม่ได้เนื่องจากสมาชิกหลายรายที่กู้เงินไปแล้วไม่ผ่อนชำระ ทำให้วงเงินไม่พอ
ซึ่งตนไม่เชื่อว่ามาจากสาเหตุดังกล่าวเพียงอย่างเดียว เนื่องกลุ่มสัจจะออมทรัพย์มีเงินออมอยู่จำนวนกว่า 1.3 ล้านบาท สมาชิกหลายคนฝากเงินออมไว้อย่างเดียวไม่ได้กู้หรือถอนเงินออกมาแต่อย่างใด สมาชิกบางคนมีเงินฝากอยู่จำนวนกว่า 1.5 แสนบาท แต่ไม่สามารถเบิกถอนได้เช่นเดียวกัน
น.ส.วรรณา กล่าวอีกว่า กลุ่มสัจจะออมทรัพย์มีสมาชิกอยู่กว่า 100 ราย ตอนนี้มีสมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 70 ราย ที่ต้องการจะถอนเงินแต่ไม่สามารถถอนได้ ที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่บ้านได้ประสานอำเภอได้มาเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อให้ประธานกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ฯ และกรรมการหาหนทางแก้ปัญหาให้สมาชิก โดยได้ข้อสรุปว่า ให้ประธานกลุ่มฯ และกรรมการ รวม 8 คน นำเงินมาคืนให้สมาชิก ที่มีเงินฝากอยู่ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 ของจำนวนเงินฝาก แต่ระยะเวลาล่วงมานานกว่า 1 เดือน ไม่มีการจ่ายเงินคืนให้สมาชิกแต่อย่างใด
ทางประธานกลุ่มไม่ชี้แจงให้สมาชิกได้รับทราบถึงสาเหตุ และทางกรรมการรายหนึ่งยังบอกอีกว่า หากสมาชิกอยากได้เงินคืนให้ไปฟ้องเอาเอง ตนและสมาชิกจึงได้เดินทางมาแจ้งความ เนื่องจากตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก หนี้สินไม่ได้ใช้ งานไม่มี จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
ด้าน พ.ต.ท.วรยุทธ ฟ่องสุทธิพิทักษ์ สว.(สอบสวน) สภ.อ่าวนาง กล่าวว่า ในเบื้องต้นให้ผู้เสียหายรวบรวมรายชื่อ เอกสารหลักฐาน และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะทยอยสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้เกี่ยวข้อง แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากผู้เสียหายจำนวนหลายคน และเพื่อให้ทราบถึงรูปแบบการดำเนินกิจการดังกล่าวตลอดถึงการดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าในการดำเนินกิจการนั้น กรรมการไม่เคยเรียกประชุมขี้แจง และไม่เคยแสดงผลการดำเนินกิจการให้สมาชิกได้รับรู้เลย ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งทำการตรวจสอบให้ชัดเจนว่า การดำเนินการของกลุ่มดังกล่าวเข้าข่ายสหกรณ์หรือไม่ โดยจะเรียกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจ้งพร้อมนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดง เพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่รับผิดชอบในการดำเนินกิจการดังกล่าวต่อไป