ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนขับรถแท็กซี่ป้ายเขียว แจงที่ต้องติดป้ายห้ามป้ายดำเข้ามารับแขก เพราะเดือดร้อนหนัก ตัดราคากันเห็นๆ ลูกค้าเลือกใช้ที่ราคาถูกกว่า เผยอยากให้ขนส่งภูเก็ตนำรถป้ายดำ-ป้ายขาว จดทะเบียนให้ถูกต้อง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยว
จากกรณีที่ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 1 นาที พร้อมระบุข้อความว่า “สุดทน แท็กซี่ป่าตอง ขึ้นป้ายห้ามรถแท็กซี่ป้ายดำมารับแขกแถวนี้” โดยในคลิปดังกล่าว คนขับรถแท็กซี่ 2 คน กำลังติดป้ายที่เสาไฟฟ้าริมถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขนาดใหญ่ โดยในป้ายดังกล่าวมีข้อความระบุว่า “ห้ามรถแท็กซี่ป้ายดำรับแขกบริเวณนี้” นอกจากนั้น ในคลิปยังถ่ายให้เห็นป้ายลักษณะเดียวกันอีกหลายจุดที่มีการติดไว้เสร็จแล้ว
คนขับรถแท็กซี่ป้ายเขียวรายหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง กล่าวว่า การติดป้ายข้อความดังกล่าวของผู้ขับแท็กซี่ป้ายเขียวนั้น เพราะต้องการให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบได้หันมามองถึงปัญหาของคนขับรถแท็กซี่ป้ายเขียว และหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างจริงจัง พวกเราไม่ได้อยากเด่นอยากดัง ที่ผ่านมาเคยแจ้งผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองไปแล้ว ซึ่งรับเรื่องไว้แต่เงียบ กระทั่งพวกเราซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่สามารถทำงานได้ ในส่วนของป้ายดังกล่าวเมื่อผู้ใหญ่รับทราบแล้วก็ให้ปลดออกไม่ได้จะประจานหรือว่าอย่างไร เพราะหากเราไม่ทำเช่นนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ยังเฉย
คนขับรถแท็กซี่ป้ายเขียว ยังกล่าวต่ออีกว่า ขอให้จัดทำราคาค่าบริการที่เป็นธรรมรับได้ทั้งสองฝ่าย โดยให้เป็นราคาที่ออกมาจากสำนักงานขนส่ง เพราะเขาอยู่ในพื้นที่และทราบดีว่าแต่ละระยะทางควรคิดราคาเท่าใด ส่วนของรถที่ไม่ถูกต้องให้เข้าสู่ระบบและทำให้ถูกต้อง อาจจะบอกว่าเห็นแก่ตัวก็ได้ เพราะบางคนมีงานทำประจำอยู่แล้วพอเลิกงานก็มาวิ่งให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน สร้างปัญหาอย่างมาก เพราะแย่งกันลดราคา ซึ่งในส่วนของผู้โดยสารเราไม่ว่ากัน เพราะเขาต้องการราคาถูกอยู่แล้ว ดังนั้น จึงอยากให้กำหนดราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งคนขับและผู้โดยสาร
ขณะที่คนขับรถแท็กซี่ป้ายเขียวอีกราย กล่าวเสริมว่า เมื่อการท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ทำให้ผู้ประกอบอาชีพบริการรถโดยสารสาธารณะหรือแท็กซี่ได้กลับมามีงานทำ แต่พบว่าปัญหารถป้ายดำ หรือป้ายขาวที่ไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้อง มาแอบวิ่งรับนักท่องเที่ยวและมีการตัดราคานั้นก็กลับมาเช่นกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานานมากแล้ว
“ย้อนกลับไปก่อนเกิดโควิด-19 จากปัญหาดังกล่าว ทำให้ผู้บริการรถยนต์รับจ้างป้ายเขียวหรือรถตู้ป้ายเหลืองต้องคืนรถไปส่วนหนึ่ง เพราะไม่มีรายได้จะผ่อนจ่ายค่างวด และเมื่อการท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง ทำให้มีการนำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนมาวิ่งรับนักท่องเที่ยว” คนขับรถแท็กซี่ป้ายเขียว กล่าวและว่า
ส่วนหนึ่งเข้าใจว่าติดเงื่อนไขข้อกฎหมายใหม่ คือ การจดป้ายเขียว ต้องเป็นรถไม่เกิน 2 ปี และวิ่งไม่เกิน 20,000 กม. เป็นต้น ขณะที่ป้ายเหลืองส่วนมากเป็นรถตู้ คนที่เคยขับป้ายเหลืองมีจำนวนไม่น้อยที่โดนยึดรถไปในช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้ทุนหายไม่มีเงินที่จะไปออกรถมา และอาจไปเช่าหรือนำรถที่ไม่ได้จดทะเบียน รถป้ายดำหรือป้ายขาวออกมาแอบวิ่งรับลูกค้า เข้าใจว่าจะต้องทำมาหากินกัน แต่ขอให้ไปทำให้ถูกกฎหมายจะดีกว่า ซึ่งจะไม่เป็นการเอาเปรียบเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันอีกด้วย
คนขับแท็กซี่ป้ายเขียวรายนี้ยังบอกอีกว่า ส่วนใหญ่รถป้ายดำหรือป้ายขาวนั้นจะลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันในการเรียกรับลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาทราบว่ามีการตัดราคาค่ารถให้ถูกลงกว่ารถแท็กซี่ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถต่อรองกันได้ ส่วนใหญ่มักจะรับลูกค้าต่างชาติ แต่ในทางกลับกันแท็กซี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายกว่าจะจดทะเบียนได้ต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก ซึ่งการจอดตามคิวต่างๆ กว่าจะได้ลูกค้าต้องรอให้ถึงคิวตนเอง เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนในแต่ละคิวนั้นๆ
จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ขนส่งจังหวัด เข้ามาช่วยเหลือหรือหาวิธีการที่จะนำรถที่ผิดกฎหมายเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการ ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีการเสียภาษีให้ถูกต้อง เข้าใจว่าทางขนส่งได้มีมาตรการปราบปรามรถแท็กซี่ที่ผิดกฎหมายเหล่านี้อยู่แต่ขอให้เข้มงวดมากขึ้น เพราะปัจจุบันนักท่องเที่ยวในภูเก็ตเริ่มเยอะขึ้นแล้ว หากมีรถผิดกฎหมายออกวิ่งกันจำนวนมาก เกรงจะมีปัญหากับคิวต่างๆ ในพื้นที่ และส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้วย
