กระบี่ - อธิบดี DSI ลุยอายัดโรงงานและทรัพย์สิน บริษัทกระบี่บวิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัดมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ไว้ในคดีพิเศษที่ 215/2565 เชื่อได้มาโดยทุจริต พร้อมหมายเรียกผู้ต้องหาชุดแรกมารับทราบข้อหาแล้ว จำนวน 8 ราย ขณะที่ผู้บริหารโรงงานโต้มีการซื้อขายถูกต้อง
วันนี้ (4 ส.ค.) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เข้าตรวจอายัดโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่ สาขาคลองท่อม พร้อมทรัพย์สินมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ในคดีพิเศษที่ 215/2565 กรณีการทุจริตและยักยอกทรัพย์ในชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ซึ่งมีผู้ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 20,000 ครัวเรือน มีมูลค่าความเสียหายโดยรวมจำนวนไม่กว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับการเข้าตรวจยึดในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 กรณีชุมนุมสหกรณ์เกิดปัญหาการบริหารจัดการชุมนุม ผู้บริหารมีการทุจริตและส่งผลให้ชุมนุมสหกรณ์เสียหายต่อสมาชิกเป็นวงกว้าง จึงได้มอบนโยบายให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณานำเรื่องกรณีการทุจริตดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และมอบหมายให้กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด นายสุนทรา พลไตร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมายฟอกเงิน สำนักงาน ปปง. เป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษ มีการบูรณาการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และสหกรณ์จังหวัดกระบี่
กระทั่งพบพฤติการณ์กรรมการ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ของชุมนุมสหกรณ์ ซึ่งมีหน้าที่ในการบริหารกิจการของชุมนุมสหกรณ์ หลายชุด มีการกระทำผิดโดยไม่ดูแลหรือจัดการทรัพย์สินของชุมนุมสหกรณ์ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของสหกรณ์หรือผลประโยชน์ของสมาชิก และมีการดำเนินการขายโรงงานสาขาคลองท่อม ซึ่งเป็นทรัพย์สินของชุมนุมสหกรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บริหารงานไม่ซื่อสัตย์สุจริต และไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของสหกรณ์ มีการจัดทำสัญญาซื้อขายเอื้อประโยชน์แก่บริษัท กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด ทำให้ชุมนุมสหกรณ์เสียประโยชน์อย่างชัดแจ้ง ผู้บริหารของชุมนุมสหกรณ์บางรายเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของบริษัท กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด มีสถานะเกี่ยวกับข้องกับผลประโยชน์ในนามของผู้ขายและผู้ซื้อในคราวเดียวกัน ซึ่งถือเป็นการการบริหารงานที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอันขัดต่อพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดกระบี่ เข้าตรวจค้นบริษัท กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด (โรงงานสาขาคลองท่อม) และได้ทำการยึด/อายัดโรงงานสาขาคลองท่อม รวมทั้งทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอันเกิดจากการซื้อขายโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายรวมหลายรายการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดโดยทุจริต อีกทั้งทรัพย์สินดังกล่าวยังเข้าข่ายเป็น “ทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด” ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งจะได้ดำเนินการประสานส่งต่อให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ดำเนินการตามมาตรการทางแพ่งต่อไป
พร้อมกันนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังได้มีหมายเรียกผู้ต้องหาชุดแรกในคดีดังกล่าวเพื่อมารับทราบข้อหาแล้ว จำนวน 8 ราย โดยให้เดินทางมาพบรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 1 และ 2 กันยายน 2565 ณ กองคดีความผิดต่อการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ขณะที่ผู้บริหารบริษัท กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด (โรงงานสาขาคลองท่อม) ได้ให้ข้อมูลว่า ทางบริษัทฯ ได้ซื้อโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ของชุมนุมสหกรณ์มาอย่างถูกต้อง มีการทำหนังสือสัญญาซื้อขายชัดเจนและมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายรับรู้ โดยมีการซื้อขายในวงเงิน 320 ล้าน สัญญา 12 ปี ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นจนทำให้ชุมนุมฯ ขาดทุนเป็นเงินกว่า 1 พันล้านบาท เกิดมาก่อนที่ บ.วิเศษน้ำมันปาล์ม จะเข้ามาซื้อโรงงาน ซึ่งทางผู้บริหาร บ.วิเศษปาล์ม ไม่ได้คดโกง หรือทุจริตการได้มาของโรงงาน เชื่อว่าถูกกลั่นแกล้ง