ตรัง - หนุ่มเมืองห้วยยอด จ.ตรัง คิดค้นผ้าบาติกแฮนด์เมด “ลายกล้วยไม้แคทรียา” อัตลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยการใช้ปลายนิ้วเกลี่ยสี และใช้อุณหภูมิจากร่างกายเป็นตัวควบคุมการแห้งของสี
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่วังเทพทาโร ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้ทำการผลิตผลงานผ้าบาติกเพนต์ลวดลายโดดเด่น อ่อนช้อย สวยงาม โดยฝีมือของ นายไสว เรืองดุก ซึ่งเป็นช่างฝีมือเขียนลายผ้าบาติกมายาวนานกว่า 30 ปี ล่าสุด สามารถคิดค้นพัฒนาต่อยอดจนสามารถสร้างอัตลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในโลก นั่นคือ บาติกลายกล้วยไม้แคทรียา ที่ผ่านกระบวนการคิดพัฒนาเทคนิคการเพนต์ โดยใช้ปลายนิ้วในการเกลี่ยสี และมีการใช้อุณหภูมิจากร่างกายเป็นตัวควบคุมการแห้งของสี
จนบาติกลายกล้วยไม้แคทลียามีออเดอร์เข้ามาจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้ชื่อแบรนด์ “Phaya Batik” หรือ “พญาบาติก” ที่มีความหลากหลายโทนสี เช่น โทนม่วง-ชมพู-ขาว-เขียว โทนฟ้า-น้ำเงิน-ขาว-เขียว โทนคลาสสิก สีพาสเทล แนวหวานคลาสสิก เป็นต้น ซึ่งนอกจากนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าแล้ว ยังนำไปเป็นภาพประดับตกแต่งบ้าน ประดับฝาผนัง ทำเป็นวอลเปเปอร์ที่สวยงามได้ด้วย
นายไสว เรืองดุก บอกว่า ตนเองทำผ้าบาติกเพนต์ขายมาประมาณ 30 กว่าปี แต่มาทำที่วังเทพทาโรตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ซึ่งผ้าบาติกต้องเป็นผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติเท่านั้น ทั้งผ้าฝ้าย ผ้าลินิล ผ้าไหมไทย ผ้าไหมญี่ปุ่น ผ้าไหมจีน ผ้าโทเร ผ้าคอตตอนซาติน โดยการเขียนลายด้วยเทียน และสีที่ใช้ทำเป็นลักษณะสีย้อมผ้าเป็นสีน้ำ ซึ่งมีคุณภาพดีคือ สีจะเข้าไปอยู่ในเส้นด้าย ซึ่งถ้าเป็นบาติกแท้ ทำด้วยมือ สีทั้ง 2 ด้านจะเป็นสีเดียวกัน ทั้งด้านหน้าด้านหลัง เวลาเอาไปซักสีจะไม่ตก เพราะสีจะกลืนเข้ากับเนื้อเส้นด้าย แตกต่างจากบาติกอื่นๆ เช่น บาติกพิมพ์ สีจะติดด้านเดียว
ทั้งนี้ บาติกจะมี 2 ชนิด คือ บาติกพิมพ์ ซึ่งจะใช้บล็อกไม้ หรือบล็อกทองเหลือง พิมพ์เป็นลวดลาย แต่ถ้าเป็นแบบบล็อกพิมพ์ ลวดลายบนผ้าที่ได้จะแข็ง ไม่มีชีวิต แต่ของตนจะเป็นแบบบาติกเพนต์ด้วยมือ ใช้วิธีเขียนเทียนเส้นจะคมชัด และระบายสีด้วยมือ ซึ่งใช้เทคนิคการเขียนซ้อนสี ลวดลายบนผ้าที่ได้จะพลิ้วไหว มองดูนุ่มนวล เชิงซ้อน มีมิติ แตกต่างจากบาติกบล็อกพิมพ์
สำหรับการทำงานของตนจะใช้คอนเซ็ปต์ว่า “บาติกมีชีวิต ลายลิขิตเพื่อชีวา บาติกกล้วยไม้จากปลายนิ้วพลิ้วไสวปลุกโลก” ซึ่งคำว่า ปลุกโลก มาจากการที่ชาวต่างชาติค้นหาผ้าบาติกทางอินเทอร์เน็ต แต่มาติดใจและชื่นชอบของตนที่ไม่เหมือนใคร จึงมีออเดอร์สั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก เพราะแตกต่างไม่เหมือนผ้าบาติกที่ไหนในโลก ทั้งนี้ บาติกลายกล้วยไม้แคทรียา ได้ผ่านกระบวนการคิดพัฒนาเทคนิคการเพนต์ โดยใช้ปลายนิ้วในการเกลี่ยสี และมีการใช้อุณหภูมิจากร่างกายเป็นตัวควบคุมการแห้งของสี
ส่วนเหตุผลที่ตนเองทำเป็นลายกล้วยไม้ จากเดิมที่เคยทำลวดลายพื้นๆ ทั่วไปเหมือนกับคนอื่น เช่น รูปปลา สัตว์ ต้นไม้ใบหญ้า หรือลวดลายอื่นทั่วไปตามออเดอร์ของลูกค้า แต่คนที่เห็นจะบอกว่าเหมือนกันกับผ้าบาติกอื่นๆ ทั่วไป ไม่มีความแตกต่าง ตนจึงคิดว่ามันไม่เหมาะ ไม่มีจุดเด่น ไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
ประกอบกับในปี 2560-2561 ตนได้มีออเดอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขาระบุว่าอยากได้ลายดอกไม้ที่เป็นดอกใหญ่ๆ ปรากฏว่า พอดีกับลูกชายของอาจารย์จรูญ แก้วละเอียด ซึ่งเป็นเจ้าของวังเทพทาโร กำลังปลูกดอกกล้วยไม้อยู่ เมื่อตนไปเห็นก็ขอถ่ายรูปมาเพื่อออกแบบ จากนั้นนำเสนอให้ลูกค้าที่อเมริกาดู ปรากฏว่าลูกค้าโอเค บอกว่าสวยมาก และเมื่อตัวเองทำผ้าบาติกผืนนี้เสร็จก็นำมาตากไว้ ปรากฏว่าลูกค้าที่มาดูงานที่วังเทพทาโรบอกว่าสวยมากจะขอซื้อ จึงทำให้เห็นว่าผลงานของตัวเองมีความแตกต่างจากที่อื่นและลูกค้าชื่นชอบ หลังจากนั้นจึงใช้ดอกกล้วยไม้แคทลียาเป็นลายเด่นของแบรนด์ พร้อมพัฒนาฝีมือการวาดและลงสีมาเรื่อยๆ
จนตอนนี้ตัวเองสามารถคิดค้นเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวที่แตกต่างจากที่อื่นอยู่ 2 ลักษณะ คือ 1.เมื่อตอนระบายสีน้ำ หรือแต้มสีก็จะใช้นิ้วในการเกลี่ยสี ทำให้มีข้อดีคือ ถ้าใช้พู่กัน ยังพบมีสีตกค้างอยู่ อีกทั้งการเกลี่ยสี หรือการควบคุมสีด้วยพู่กัน จะยากกว่าการใช้นิ้ว ที่สำคัญคือ การใช้นิ้ว จะไม่มีสีตกค้างในนิ้ว
2.การลงรายละเอียดอย่างเส้นต่างๆ ถ้าใช้นิ้ว อุณหภูมิของร่างกายมนุษย์ประมาณ 36-37 องศา จะเร่งควบคุมให้สีแห้งเร็วขึ้น และช่วยให้ลวดลายนุ่มขึ้น เพราะเราสามารถควบคุมสีได้ แต่ถ้าไม่ใช้อุณหภูมิร่างกายมนุษย์ บางครั้งสีอาจจะแห้งช้า และสีอาจจะไหลต่อไป ทำให้ลวดลายไม่โดดเด่น ไม่สวย ขณะเดียวกัน ลายกล้วยไม้ที่ทำมาในแต่ละผืนจะไม่ซ้ำกัน รวมทั้งสีที่ใช้และลูกเล่นของสี ทำให้ได้ลายกล้วยไม้ที่หลากหลายสีสัน หลากหลายโทนสี และหลากหลายลวดลาย
นอกจากนั้น ยังมีงานบล็อกลายดอกเทพทาโร โทนเทาดำ และงานบล็อกพิมพ์เทียน เพิ่มมิติเรื่องราวด้วยเทคนิคการผลิตแบบซ้อนสี ทำให้เป็นที่ต้องการของลูกค้า และลูกค้าที่ซื้อไปเมื่อนำไปตัดเย็บสวมใส่ออกงาน หรือตนเองนำผลงานไปร่วมจัดแสดง หรือเข้าร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานราชการที่มีการจัดงานสินค้าเกี่ยวกับผ้า จะมีการนำผ้าบาติกที่ได้ไปตัดเย็บนำเสนอผ่านชุดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
ปรากฏว่า มีสีสันโดดเด่น สวยงาม สามารถออกแบบดีไซน์เสื้อผ้าในการสวมใส่ได้หลากหลาย และยังสามารถนำไปตัดแบ่งผืน ทำเป็นภาพประดับตกแต่งบ้าน ประดับฝาผนัง ทำเป็นวอลเปเปอร์ที่สวยงามได้ด้วย ซึ่งแต่ละผืน เช่น ยาวประมาณ 3 เมตร 60 ซม. กว้างประมาณ 1 เมตร 20 ซม. กว่าจะทำแล้วเสร็จใช้เวลาแตกต่างกัน ตั้งแต่ประมาณ 4 วัน จนถึงประมาณครึ่งเดือน ขึ้นอยู่กับลวดลาย การใช้สี การซ้อนภาพ ซ้อนสี และการสร้างมิติของผืนผ้าให้อ่อนไหว สวยงาม นุ่มนวล
โดยราคาชิ้นงานของตนเองนั้นจะเริ่มต้นที่ชิ้นละ 2,500-35,000 บาท ลูกค้าเป็นคนไทย 80 เปอร์เซ็นต์ และเป็นลูกค้าต่างประเทศประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เช่น สหรัฐอเมริกา เบลเยียม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ซึ่งไม่ได้ขายส่ง แต่จะขายปลีกเท่านั้นผ่านช่องทางออนไลน์ เพจพญาบาติก phaya batik และ PA-YA painted batik