นครศรีธรรมราช - สุดจะทน! หลานในไส้ทาสยาเสพติด บุกบ้านน้าขนทรัพย์สินทุกอย่างที่ขวางหน้าขายเกลี้ยง ยายเผยสุดช้ำแม่ไปเยี่ยมในเรือนจำ กลับมาถือใบฝากเงินเยี่ยมตรอมใจตาย แจ้งตำรวจคุมตัวดำเนินคดี
วันนี้ (19 ก.ค.) ร.ต.อ.เอกพงศ์ คงขาว ร้อยเวรหัวหน้าสายตรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปนอนหลับอยู่ในบ้านเลขที่ 86/57 ซอยทุ่งข่า 11 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์เข้าทำการตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ดังกล่าว พบว่าเจ้าของบ้านได้ปิดประตูขังชายฉกรรจ์ผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นคนร้ายอยู่ภายในบ้าน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ชายคนดังกล่าวได้เปิดหน้าต่างข้างบ้านแล้วเอะอะโวยวาย อ้างว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของแม่ตนเอง พร้อมทั้งด่าทอผู้ที่แจ้งเจ้าหน้าที่อย่างสาดเสียเทเสีย และมีอาการคล้ายคุมสติอารมณ์ไม่ได้
หลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า ชายที่อยู่ในบ้านคือ นายจารุวัฒน์ เทียมทัน อายุ 42 ปี มีทะเบียนบ้านอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ที่แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวคือ นางประกอบ สมหวัง อายุ 82 ปี เป็นยายของนายจารุวัฒน์ โดยขณะที่ยายได้คุยกับเจ้าหน้าที่ นายจารุวัฒน์ ได้ด่าทอโวยวายอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่จะปีนหน้าต่างออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวเอาไว้ก่อน
นางประกอบ สมหวัง อายุ 82 ปี ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าส่งผลไม้รายใหญ่ใน จ.นครศรีธรรมราช แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า บ้านหลังที่นายจารุวัฒน์ เข้าไปอาศัยอยู่นั้นเป็นบ้านของ น.ส.อำไพ สมหวัง อายุ 56 ปี เป็นน้าของนายจารุวัฒน์ ส่วนแม่ของนายจารุวัฒน์ เคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เช่นกัน แต่เสียชีวิตไปเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน
โดยนายจารุวัฒน์ ติดยาเสพติดอย่างหนัก ถูกจับต้องโทษจำคุกอยู่ที่เรือนจำปากพนัง 3 ปี เมื่อราวเกือบ 2 ปีก่อน แม่นายจารุวัฒน์ได้ไปเยี่ยมที่เรือนจำปากพนัง เมื่อกลับมาบ้านด้วยความตรอมใจ เครียดหนักจนช็อกเสียชีวิต ในมือยังถือสลิปฝากเงินในเรือนจำให้นายจารุวัฒน์ 3 พันบาท หลังจากนั้นได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล โดยที่นายจารุวัฒน์ยังอยู่ในเรือนจำ ก่อนจะพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณ 1 ปี ได้อาละวาดต่อเนื่องปีนบ้านตนเองอีกหลังที่อยู่ใกล้กันลักทรัพย์ต่อเนื่อง และเข้ามางัดตัดกุญแจบ้านหลังนี้เข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินในบ้านหลายครั้งต่อเนื่องกัน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ทุกอย่างที่มีค่าถูกเอาไปขายทั้งหมด ยาย ลุง และป้า หวั่นว่าวันหนึ่งจะถูกทำร้ายถูกฆ่าแน่ และเมื่อคืนที่ผ่านมา เครื่องไฟฟ้าอีกชิ้นคือเครื่องปรับอากาศ ถูกงัดออกไปขายอีกแล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี และขอให้ช่วยติดตามทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปกลับมา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์ติดต่อกับ น.ส.อำไพ น้าของนายจารุวัฒน์ ในฐานะผู้ถือกรรมสิทธิ์บ้าน เนื่องจากเจ้าตัวได้ไปทำธุรกิจรับซื้อผลไม้อยู่ที่ จ.จันทบุรี ได้ความว่าไม่อนุญาตให้นายจารุวัฒน์ อาศัยอยู่ในบ้าน และขอให้ดำเนินคดีจากการโจรกรรมทรัพย์สินในบ้านไปขาย และยืนยันว่าได้มอบบ้านให้ นางประกอบ มารดาเป็นผู้ดูแลในระหว่างไปทำงานอยู่ที่ จ.จันทบุรี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวนายจารุวัฒน์ พร้อมทั้งเชิญนางประกอบ ยายของนายจารุวัฒน์ ไปสอบปากคำพฤติการณ์นายจารุวัฒน์ ทรัพย์สินที่สูญหาย ก่อนที่จะแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน รวมทั้งตรวจสอบสารเสพติดในร่างกาย