พัทลุง - หัวหน้าชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลนำกำลังตำรวจพัทลุง บุกช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 14 ปี หลังถูกนายจ้างฉุดมาจากนครศรีธรรมราชได้ 7 วัน พ่อแม่แจ้งความที่ สภ.เมืองนครศรีฯ พร้อมหอบหลักฐานที่ลูกแอบขโมยมือถือส่งที่อยู่มาให้ แต่ไม่มีอะไรคืบ สุดท้ายร้องสื่อให้ช่วยติดตามเข้าช่วยเหลือ
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่ จ.พัทลุง พ.ต.ต.จำเริญ อินทร์แก้ว หัวหน้าชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพัทลุง ฉก.เสือดำ ชุดสืบสวน สภ.เขาชัยสน ลงพื้นที่ต้องสงสัยเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 14 ปี ซึ่งถูกนายหมู อายุ 29 ปี พื้นเพเดิมเป็นชาวพัทลุง นายจ้าง พาตัวมากักขังและมัดไว้ รวมถึงกระทำอนาจาร ในพื้นที่ ม.1 ต.จองถนน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และกระทำอนาจาร
เมื่อเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 14 ปีได้ แต่ปรากฏว่า นายหมู ได้วิ่งหลบหนีไป ด้านพ่อแม่ที่เดินทางมาจาก จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเห็นลูกสาวถึงกับร้องและเข้าโอบกอดว่า "ลูกปลอดภัยแล้วลูก กลับบ้านเราเถอะ" ด้านเจ้าหน้าที่เร่งประสานสหวิชาชีพเข้าช่วยเหลือเด็ก พร้อมเร่งติดตามนายหมู ที่หลบหนีต่อไป
ก่อนหน้านี้ พ่อแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปีคนดังกล่าวได้เดินทางมาจาก จ.นครศรีธรรมราช เข้าพบนายไสว รุยันต์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง เพื่อประสานขอความช่วยเหลือ ก่อนที่นายไสว จะนำพ่อแม่ไปพบ พ.ต.ต.จำเริญ อินทร์แก้ว หัวหน้าชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนนำไปสู่การช่วยเหลือดังกล่าว
พ่อแม่ของเด็กหญิงอายุ 14 ปี รายนี้เปิดเผยว่า ได้เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช และนายไสว รุยัน ผู้สื่อข่าว ประจำพัทลุง เพื่อขอให้ติดตามลูกสาว อายุ 14 ปี โดยเหตุการณ์นี้เริ่มจากวันที่ 10 ก.ค. ลูกสาวได้หายตัวไป แต่เข้าใจว่าไปทำงานอยู่บ้านของนายจ้างของครอบครัวตนเอง จนกระทั่งทราบว่า นายจ้างคือนายหมู ซึ่งอยู่บ้านห่างกันไปราว 10 นาที เป็นผู้พาตัวไป จึงไปติดตามที่บ้านของนายหมู แต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน กระทั่งวันที่ 12 ก.ค. ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มีพนักงานอบสวน สภ.เมือง เป็นผู้รับแจ้งความ มีการสอบปากคำไปแต่ไม่ได้รับเอกสารใดๆ กลับมา
"วันที่ 14 ก.ค.ได้รับแชตทางโทรศัพท์มือถือจากลูกสาวขอความช่วยเหลือให้มาช่วยพากลับบ้านด้วย เกรงกลัวน้าหมู ที่มีอารมณ์ร้าย พร้อมกันนั้นได้ปักหมุดแผนที่มาให้ ส่วนโทรศัพท์นั้นทราบว่าได้ขโมยโทรศัพท์จากเพื่อนคนหนึ่งของนายหมู มาใช้ แต่ภายหลังติดต่อไม่ได้อีก"
สองสามีภรรยา บอกว่า หลังจากที่ได้รับแชตขอความช่วยเหลือ ได้นำหลักฐานทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราชอีกครั้ง เพื่อเร่งติดตามหาตัวลูกสาว ซึ่งได้มีการพิมพ์เอกสาร แล้วบอกว่าจะแจ้งไปให้ตำรวจพัทลุงให้ติดตาม แต่หลังจากวันนั้นกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ จากเจ้าหน้าที่ จนไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว
พ่อแม่เด็ก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ราว 2 เดือนเศษ นายหมู ซึ่งเป็นคนอารมณ์ร้ายเคยมาอาละวาดที่บ้าน นอกจากนี้ ยังเคยมาบอกว่า จะพาลูกสาวของตนเองไปทำงานทำขนม งานบ้าน ซึ่งเป็นรายได้พิเศษของลูกในการไปเรียนหนังสือ แต่กลับพาไปเข้ารีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.ปากพูน ตนมาทราบภายหลังจากเห็นความผิดปกติของลูกจึงคาดคั้นถามจนทราบว่าลูกถูกล่วงละเมิดแล้ว ซึ่งฝ่ายชายได้เข้ามาพูดคุยทั้งจากแม่ รวมทั้งนายหมู เอง อ้างว่า จะมาคุยให้เป็นเรื่องเป็นราวและจะมาสู่ขอ แต่ทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันที่เกิดขึ้นกับตนเอง และครอบครัวอย่างรอบด้าน
"ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากสื่อ รวมทั้งจะดำเนินคดีนายหมู ให้ถึงที่สุด ส่วนฝ่ายชายนั้นมีภรรยาอยู่แล้ว มีลูก 2 คน แต่ทราบว่าภรรยาได้เลิกราและหนีไป"