ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กภูเก็ต ถือป้ายประท้วงสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนให้คณะรองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ภูเก็ตรับทราบปัญหา ไม่มีใบอนุญาต ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ถูกบังคับคดียึดทรัพย์
วันนี้ (12 ก.ค.) กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กประมาณ 80 คน นำโดย นายมโนสิทธิ์ แจ้งจบ รักษาการนายกสมาคมที่พักบูติคจังหวัดภูเก็ต ได้รวมตัวกันที่ลานจอดรถหลังธนาคารกรุงไทย สาขาป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ถือป้ายประท้วงสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มโรงแรมขนาดเล็กที่ไม่มีใบอนุญาต ถูกบังคับคดียึดทรัพย์ เพื่อแสดงพลังในโอกาสที่คณะรองนายกรัฐมนตรี (ดร.วิษณุ เครืองาม) ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี รองศาสตราจารย์วราภรณ์ สามโกเศศ ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ กลุ่มกระทรวงคณะที่ 3 และเจ้าหน้าที่ติดตามประเมินผลการส่งเสริมและการพัฒนาการท่องเที่ยวคุณภาพสูงในพื้นที่ตำบลป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
โดยหนึ่งในตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก กล่าวว่า พวกเราในนามสมาชิกสมาคมที่พักบูติคภูเก็ตได้รับความเดือดร้อนตั้งแต่โควิด-19 ทำให้โรงแรมขนาดเล็กในป่าตองไม่ต่ำกว่า 200 แห่งถูกบังคับคดียึดทรัพย์ และขายทอดตลาด จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือขอผ่อนผันการเปิดโรงแรมและขอให้ช่วยแก้กฎหมายที่เป็นปัญหา ซึ่งมีการเรียกร้องกันมานาน เพราะพวกเราลำบากและเดือดร้อนกันมาก โรงแรมถูกปิดกิจการเนื่องจากโควิด ไม่มีรายได้ และโรงแรมไม่มีใบอนุญาต ต้องถูกปิด ทำให้ไม่มีเงินจ่ายธนาคาร ถูกยึดทรัพย์ อยากให้ธนาคารยืดเวลาในการจ่ายคืนเงินกู้ ไม่อยากให้ยึดโรงแรม เพราะบางคนที่ถูกยึดทรัพย์ยังต้องจ่ายหนี้กันด้วย จึงขอให้พวกเราได้ไปต่อ ขอให้พวกเราได้เปิดกิจการด้วย ขอให้รัฐบาลเห็นใจพวกเราด้วย ไม่ใช่เอื้อแต่โรงแรมขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คณะอนุกรรมการการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ (อ.ค.ต.ป.)ได้รับฟังบรรยายสรุปข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร ตลอดจนรับทราบปัญหาอุปสรรคของผู้ประกอบการที่ผ่านมา โดยมีผู้บริหารเทศบาลเมืองป่าตอง และตัวแทนจากสมาคมที่พักบูติคจังหวัดภูเก็ตให้ข้อมูล ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีการนำเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของข้อกฎหมายโรงแรมที่ทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กไม่สามารถเดินหน้าธุรกิจได้ จึงอยากให้เร่งดูแลในเรื่องนี้ เพราะตอนนี้มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ถูกบังคับคดีไปแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการอีกจำนวนหลายสิบราย ซึ่งทางอนุกรรมการฯ ได้มีการซักถามและรับข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำไปสรุปเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีต่อไป