ยะลา - สวนศักดิ์ศรีเบตง เปิดเส้นทางธุรกิจ “ทุเรียนแช่แข็งและกล่องสุ่มทุเรียน” สร้างช่องทางใหม่ในการจำหน่ายทุเรียนแปรรูป รองรับนักท่องเที่ยวให้สามารถชิมรสชาติทุเรียนมูซังคิงนอกฤดูกาลได้
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่สวนศักดิ์ศรี ที่มีการปลูกทุเรียนบนพื้นที่ 25 ไร่ มากว่า 17 ปี รวมทุเรียนสายพันธุ์อื่นๆ กว่า 400 ต้น โดยมีทุเรียน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์มูซังคิง พันธุ์โอวฉี หรือหนามดำ และพันธุ์ยาวลิ้นจี่ สวนศักดิ์ศรีเป็นสวนเกษตรอินทรีย์ผลิตทุเรียนปลอดสารพิษและได้รับมาตรฐานรับรอง GAP ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพและราคาของทุเรียนให้เพิ่มสูงขึ้น โดยเน้นการทำตลาดออนไลน์ และบางส่วนจำหน่ายใน Tops Supermarket อีกทั้งจำหน่ายต้นกล้าทุเรียน ราคาต้นละ 100 บาท ส่งจำหน่ายทั่วประเทศได้ปีละ 60,000-80,000 ต้น ปัจจุบันสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด รวมทั้งได้จำหน่ายทุเรียนแช่แข็งให้นักท่องเที่ยว และเตรียมขยายการผลิตเพื่อการส่งออกในอนาคต
นายศักดิ์ศรี สง่าราศี เปิดเผยว่า ทุเรียนสายพันธุ์เหมาซานคิง หรือมูซังคิง ที่ปลูกอยู่ในสวนใช้สารเคมีน้อยมาก สำหรับสวนทุเรียนของตนเองนั้น เป็นสวนแบบเกษตรอินทรีย์ ผสมปุ๋ยเคมีโดยใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ และใช้น้ำสะอาดที่ไหลจากยอดเขาสันกาลาคีรี โดยได้ต่อท่อน้ำมาลงที่สระน้ำที่เลี้ยงปลานิล และนำน้ำจากการเลี้ยงปลามาใช้รดน้ำในการเพาะปลูกสายพันธุ์ทุเรียนและต้นไม้อื่นๆ ซึ่งน้ำที่ได้จากมูลปลานิลนั้นเป็นปุ๋ยชั้นดี และเมื่อทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้วจะทำการตัดหญ้าตามโคนต้นทุเรียนและผลไม้อื่นๆ แล้วจึงค่อยใส่ปุ๋ยเคมีและจะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ใส่ จึงกล้าที่จะรับประกันความปลอดภัย และความอร่อย
สวนศักดิ์ศรีเป็นสวนที่ปลูกทุเรียนสายพันธุ์ เหมาซานหวาง หรือเหมาซานหว่อง หรือที่เรารู้จักกันมานานในนาม “มูซังคิง” เป็นสายพันธุ์หลัก ที่บรรดานักชิมชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ บอกว่า ต้นตำรับความอร่อยอยู่ที่เบตง เมื่อได้ลิ้มลองแล้วต้องบอกต่อ และต้องกลับมาลิ้มลองอีก ทุเรียนสายพันธุ์มูซังคิงเป็นที่นิยมบริโภคกันในประเทศมาเลเซีย จีน ไต้หวัน และอีกหลายประเทศ
เกษตรกรรุ่นใหม่อย่าง นายศักดิ์ศรี ที่มีแนวความคิดเรื่องการบริหารจัดการเกษตรในเชิงธุรกิจสมัยใหม่ ทำให้เห็นว่าเกษตรก็สามารถทำเป็นธุรกิจได้ โดยไม่ต้องลงทุนที่สูงมาก หรือทำได้คนเดียว แต่ได้นำจุดเด่นของพื้นที่มาสร้างจุดขาย โดยวันนี้ นายศักดิ์ศรี สง่าราศี เจ้าของสวนทุเรียนมูซังคิงเบตง ได้คิดเปิดเส้นทางส่งออกทุเรียนแช่แข็ง ที่มีมูลค่าน้อยให้มีมูลค่าสูง
นายศักดิ์ศรี เปิดเผยอีกว่า ได้ศึกษาและค้นหาวิธีการแปรรูปทุเรียนแบบ Freeze Dry เพื่อดึงความชื้นออกจากเนื้อทุเรียน สำหรับทุเรียนแช่แข็งต้องแช่อยู่ที่อุณหภูมิ -60 องศาฯ เนื่องจากผลไม้ทุกชนิดจะมีน้ำในตัว ฉะนั้นจะต้องทำให้น้ำกับเนื้อไม่แยกออกจากกัน ด้วยการใช้อุณหภูมิ -60 องศาฯ แต่ถ้าอุณหภูมิไม่ถึงเซลล์จะแตกออกจากกัน น้ำกับเนื้อจะแยกกัน รสชาติจะไม่อร่อย โดยต้องรักษาอุณหภูมิในตู้แช่แข็งอยู่ที่ -60 องศาฯ ทำให้เนื้อทุเรียนสดกลายเป็นเนื้อทุเรียนแช่แข็ง รสชาติเนียนถือเป็นจุดขาย
และในปีนี้ได้คัดทุเรียนที่รูปทรงไม่เต็มใบ แต่ลักษณะของเนื้อทุเรียนไม่แตกต่างจากทุเรียนที่สวย โดยผลทุเรียนจะมีผลที่บิดเบี้ยวบ้าง โดยทางสวนได้จำหน่ายกล่องละ 1,500 บาท โดยบรรจุจนเต็มกล่องในกล่องจะบรรจุอยู่ที่ 4-5 ลูก น้ำหนักอยู่ที่ 6-8 กิโลกรัมโดยเฉลี่ยแล้วแต่ว่าจะยัดใส่ในกล่องได้กี่ลูก จะอยู่ที่กล่องละ 1,500 บาท
โดยผมจะเรียกว่า กล่องสุ่มทุเรียนมูซังคิงเบตง คือลุ้นว่าจะได้กี่กิโลกรัมในแต่ละกล่อง เพื่อทำมาจำหน่ายในเบตงและผู้ที่สนใจ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเบตงที่ไม่ใช่ฤดูกาลทุเรียน เพื่อให้นักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสได้ชิมทุเรียนสายพันธุ์มูซังคิงนอกฤดูกาล
ส่วนผู้ที่สนใจต้นกล้าพันธุ์ทุเรียนมูซานคิง โอวฉี หรือหนามดำ ทุเรียนเบตง สามารถ ติดต่อได้ที่สวนศักศิ์ศรี โทร.09-8016-2806, 09-8871-4889 หรือเฟซบุ๊กกลุ่มทุเรียนเบตง
