ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าของฟาร์มจระเข้โต้ดรามา ปล่อยจระเข้โชว์นักท่องเที่ยวอด หลังปิดให้บริการ ยืนยันมีคนดูแลให้อาหารตลอด จระเข้ทุกตัวสมบูรณ์ ตัวโตขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ประมงเข้าตรวจเดือนละ 1 ครั้ง
จากกรณีผู้ใช้สื่อโซเชียลติ๊กต็อกโพสต์คลิป พร้อมระบุว่า มีฟาร์มจระเข้โชว์นักท่องเที่ยวปล่อยให้จระเข้ในฟาร์มอด เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสกุล งานวิวัฒน์ถาวร เจ้าของฟาร์มจระเข้ กล่าวว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจัดให้มีการแสดงโชว์จระเข้ หลังจากได้รับผลกระทบจากโควิดสถานที่ดังกล่าวได้ปิดให้บริการ แต่ได้จัดคนมาดูแลจระเข้มาตลอดที่ปิดตัวมา
นอกจากจะจัดเจ้าหน้าที่ดูแลให้อาหารแล้ว ทางฟาร์มยังได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดภูเก็ต ซึ่งที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของจระเข้เดือนละ 1 ครั้ง
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า จระเข้ไม่มีอาหารกินนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะทางฟาร์มได้มอบหมายให้ทางผู้ดูแลนำอาหารให้ตามเวลาที่กำหนด จระเข้ที่นี่ไม่ได้อดอยากตามที่มีการแชร์คลิปแต่อย่างใด สังเกตได้จากสภาพความสมบูรณ์ของจระเข้ทุกตัว และจระเข้ในฟาร์มมีขนาดโตขึ้น ถ้าจระเข้อดตัวไม่น่าจะโตขึ้น นอกจากนั้น ถ้าจระเข้อดจริงสามารถดูได้ทางกายกาพเพราะถ้าจระเข้อดหัวจะโต ตัวจะเล็ก
แต่จระเข้ในฟาร์มทุกตัวยังมีสภาพปกติและสมบูรณ์ จึงขอยืนยันว่าจระเข้ทั้งหมดไม่ได้อดตามที่มีการนำไปโพสต์ ซึ่งคงจะดูแลกันไปก่อน ยังไม่คิดรับบริจาคตอนนี้ โดยอาหารที่นำมาให้จระเข้นอกจากที่ตนจัดหา พบว่าช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมซื้อให้ด้วย ทำให้จระเข้มีอาหารกิน แต่หากมีคนสนใจซื้อก็ยินดีขายให้
ขณะที่ป้าแก้ว คนดูแลจระเข้ในฟาร์ม กล่าวว่า หลังจากฟาร์มได้ปิดตัวตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นเจ้าของได้จ้างคนเฝ้าดูแลและให้อาหารมาตลอด ซึ่งจระเข้ไม่ได้อดแต่อย่างใด แต่หลังจากที่มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาขอมาดูจระเข้บ้าง บางคนซื้ออาหารมาให้จระเข้บ้าง และมีผู้ที่เข้าไปเยี่ยมได้นำคลิปมาลงในโซเชียล เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวซื้ออาหารไปให้จระเข้ด้วย ซึ่งทางผู้ดูแลจะพาไปยังบ่อจระเข้ที่มีจำนวน 2 บ่อ คือ บ่อเลี้ยง กับบ่อที่เคยโชว์ในอดีต ซึ่งมีจระเข้อยู่ไม่กี่ตัวและเป็นตัวที่ดุ ทำให้ต้องแยกบ่อ ปัจจุบันสถานที่มีสภาพเก่าทรุดโทรม เนื่องจากไม่มีการใช้งานและขาดการซ่อมบำรุงดูแลรักษาให้สะอาดสวยงามเหมือนในอดีต อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่จะเข้ามาดูจระเข้ควรที่จะแจ้งให้ผู้ดูแลทราบก่อนที่จะเข้ามา
ขณะที่ นายสิทธิพล เมืองสง ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการตรวจสอบว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ฟาร์มแห่งนี้ได้แจ้งการครอบครองจระเข้ไว้ 32 ตัว แต่ตายไปแล้ว 4 ตัว ขณะนี้เหลือเพียง 28 ตัว ซึ่งในกรณีที่จระเข้ตายนั้น ทางผู้ดูแลจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจพิสูจน์สาเหตุการตายว่าเกิดจากอะไร และเก็บภาพการฝังกลบว่า ทำอย่างถูกต้องหรือไม่
สำหรับฟาร์มแห่งนี้ ทางสำนักงานฯ ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบเป็นประจำย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งจากการสังเกตด้วยสายตา พบว่า จระเข้ทั้ง 28 ตัว ไม่ได้ผอมโซอย่างที่มีผู้โพสต์ในสื่อออนไลน์แต่อย่างใด แต่จากสภาพของอาคารที่ดูทรุดโทรมคล้ายอาคารร้าง จึงทำให้เข้าใจว่าจระเข้อาจจะไม่มีผู้ดูแลและอดอยากเลยสงสารจึงเชิญชวนกันซื้ออาหารมาให้
แต่จากการสอบถามผู้ดูแลทราบว่า มี 2 คน และนำอาหารมาให้ตลอดไม่มีอด แต่ในบางช่วงได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาดูและบางคนได้ซื้ออาหารมาให้จระเข้ด้วย ส่วนสภาพของบ่อนั้นมีความแข็งแรง และยากที่จระเข้จะหลุดออมาได้
อย่างไรก็ตาม นายสิทธิพล ได้แจ้งกับเจ้าของฟาร์มว่า หลังจากนี้ขอให้มีการปิดป้ายประกาศแจ้งสำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ต้องการเข้ามาชมหรือให้อาหารจระเข้ จะต้องติดต่อคนดูแลก่อน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย และป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้
นายสิทธิพล กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีฟาร์มจระเข้ในภูเก็ต ทั้งหมด 4 ฟาร์ม แบ่งเป็นอำเภอถลาง 2 ฟาร์ม และอำเภอเมือง 2 ฟาร์ม มีจระเข้ทั้งหมด 441 ตัว
สำหรับฟาร์มในพื้นที่ฉลอง มี นายสกุล งานวิวัฒน์ถาวร เป็นเจ้าของฟาร์ม มีสถานที่ตั้งฟาร์มอยู่เลขที่ 15/15 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ม.5 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต และได้รับอนุญาตให้มีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (สป.15) ฉบับที่ 24/2562 ครอบครอง จระเข้น้ำจืด Crocodylus siamensis จำนวน 28 ตัว โดยก่อนปี พ.ศ.2563 ฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ดังกล่าวได้จดทะเบียนขออนุญาตในนามบริษัท คอคโคได เวริล มีการจัดแสดงจระเข้ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชม
ต่อมาเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต ทำให้บริษัทได้ขายกิจการให้ นายสกุล งานวิวัฒน์ถาวร โดยปัจจุบันทางฟาร์มดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวสามารถสนับสนุนเข้าให้อาหารจระเข้เพื่อลดต้นทุนด้านอาหารในการเลี้ยงจระเข้