ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เลขาธิการ ศอ.บต. เชื่อโรงงานแปรรูปมะพร้าวแบบครบวงจร อ.หนอกจิก จ.ปัตตานี จะเป็นอีก 1 ทางเลือกในการพลิกฟื้น และสร้างโอกาสให้เกษตรกรชายแดนใต้ พร้อมดันผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดตะวันออกกลาง
จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุน รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งในและพื้นที่ใกล้เคียง โดย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จึงได้ถูกกำหนดให้เป็น 1 ในพื้นที่เมืองต้นแบบเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแบบผสมผสาน ที่เปรียบเสมือนประตูด่านหน้าที่สำคัญของจังหวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการเชื่อมต่อไปยังภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และการค้าในพื้นที่
ซึ่งจากนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ได้มีการดำเนินการขับเคลื่อนหลักการที่สำคัญ คือการเพิ่มพื้นที่การปลูกพืชเศรษฐกิจตามกรอบการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา โดยได้สนับสนุนการนำร่องการขยายพื้นที่การปลูกมะพร้าวให้แก่เกษตรกร จำนวน 200 ราย ในพื้นที่ 12 ตำบลของ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี บนพื้นที่กว่า 706 ไร่ ตามความต้องการจากภาคเอกชน ที่มีความประสงค์ต้องการจะไปลงทุนอุตสาหกรรมแปรรูปมะพร้าว ทั้งในส่วนของมะพร้าวน้ำหอม และมะพร้าวกะทิ เป็นผลิตภัณฑ์มะพร้าวแปรรูป
โดยการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี วางระบบการพัฒนาเกษตรฐานรากได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางไปสู่การแปรรูปหรือกลางทาง ตลอดจนจัดระบบช่องทางตลาดที่ปลายทางให้มีความยั่งยืน ซึ่งได้ดำเนินการที่สำคัญ ได้แก่ พืชเศรษฐกิจ ช่วงต้นทาง ดำเนินการขยายพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เช่น มะพร้าว ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูก 6 แสนไร่ ต้องการขยายอีก 6 แสนไร่ เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของโรงงานแปรรูปมะพร้าวได้อย่างครบวงจร
ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างโรงงานผลิตมะพร้าวแบบครบวงจรในพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้เปิดทำการแปรรูปมะพร้าว พร้อมรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่มาแล้ว ภายใต้บริษัท ชายแดนใต้ฟู๊ดโพรเซสซิ่ง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับบริษัท ปาล์มพัฒนา ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการนำผลผลิตมะพร้าวไปจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะนายกรัฐมนตรี ได้มีการลงพื้นที่มาเยี่ยมชมโรงงานมะพร้าวแห่งนี้ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้ส่วนราชการ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการผลักดันให้โรงงานแห่งนี้เกิดขึ้น เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเดิมมีแค่โรงงานปาล์มพัฒนาชายแดนใต้ แต่ปัจจุบันได้มีการก่อตั้งโรงงานมะพร้าวขึ้น มีเกษตรกรทยอยนำผลผลิตเข้ามาขายเป็นจำนวนมาก เพื่อให้โรงงานนำผลผลิตที่ได้รับไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แบบครบวงจร ซึ่งระยะกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เห็นถึงความก้าวหน้า และความสำเร็จที่ชัดเจน
ศอ.บต. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาล ที่มีหน้าที่ในการดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการส่งเสริม และผลักดันมาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ทั้งในเรื่องของการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมะพร้าว และขยายพื้นที่ปลูกให้มากขั้น รวมถึงหาช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ และเรื่อง Soft Loan เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เชื่อมต่อประสานงานกับผู้ประกอบการต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันออกกลาง เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในพื้นที่เมืองต้นแบบ และทำให้เกษตรกรได้มีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตในราคาที่สูงขึ้น และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งไปยังพื้นที่อื่น
นอกจากนี้ ยังส่งผลให้มีการขยายโอกาสด้านแรงงานให้ประชาชน ตลอดจนเยาวชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดห่วงโซ่การผลิต และการจ้างงานจำนวนมาก โดยเฉพาะในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ เช่น การรับซื้อผลมะพร้าวไปแปรรูปจากมะพร้าวผลเป็นมะพร้าวเนื้อขาว ซึ่งเชื่อว่าอนาคตผลผลิตมะพร้าวจะเป็นพืชเศรษฐกิจหลักในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
ด้าน น.ส.อรินลดา มณีโชติ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บริษัท ชายแดนใต้ฟู๊ดโพรเซสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ชายแดนใต้ฟู๊ดโพรเซสซิ่ง จำกัด เป็นบริษัทน้องใหม่ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของครอบครัว ที่ได้มองเห็นถึงศักยภาพในการปลูกมะพร้าวของพื้นที่ จึงทำให้เกิดการก่อตั้งโรงงานแปรรูปมะพร้าวขึ้น และปัจจุบันได้เปิดทำการมาแล้วกว่า 2 เดือน มีการเปิดรับซื้อมะพร้าวจากเกษตรกรในพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา ตลอดจนจังหวัดใกล้เคียง วันละกว่า 45,000 ลูก และส่งต่อให้กโรงงานนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำกะทิปรุงสำเร็จ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น น้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาได้นำสินค้าเหล่านี้ไปออกบูทยังพื้นที่ต่างๆ ทำให้ได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากส่วนราชการ โดยเฉพาะ ศอ.บต.ที่ได้เข้ามาส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมะพร้าว และขยายพื้นที่ปลูกมากขึ้น เพื่อรองรับผลผลิต และนำมาขายให้โรงงานได้
นอกจากนี้ ในส่วนของแรงงาน ขณะนี้โรงงานมีจำนวนแรงงานทั้งหมดกว่า 50 คน ซึ่งเป็นบุคลากรที่อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด หากอนาคตโรงงานมีกำลังการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ คาดว่าจะมีการรับซื้อมะพร้าวจากเกษตรกรได้วันละกว่า 240,000 ลูก และจะมีความต้องการแรงงานกว่า 100-200 คน เพื่อให้มีแรงงานเพียงพอต่อกำลังการผลิตที่จะส่งออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศได้ โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันออกกลาง เพราะเนื่องจากโรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และกว่า 80% แรงงานของเราเป็นพี่น้องชาวมุสลิม ซึ่งถือเป็นความได้เปรียบกว่าภูมิภาคอื่นในการสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ เชื่อมั่นว่าจะสามารถเจาะตลาดในแถบตะวันออกกลาง ตลอดจนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ นางซัลมา อีแต ตัวแทนกลุ่มพ่อค้าคนกลางในพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่วันนี้ในพื้นที่มีโรงงานรับซื้อมะพร้าวตั้งอยู่ในพื้นที่แล้ว ก่อนหน้านี้ตนได้ไปรับซื้อมะพร้าวจากเกษตรกรในพื้นที่เดือนละ 1-2 ครั้ง และเดินทางไปขายในพื้นที่ จ.สตูล แต่เมื่อรู้ว่ามีโรงงานอยู่ใกล้บ้าน จากที่ต้องเก็บผลผลิตเดือนละครั้ง ตนก็ได้เก็บ 3 วันครั้ง และนำผลผลิตมาขายให้โรงงานแห่งนี้ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปไกล ถือเป็นการลดค่าใช้จ่าย และทำให้รายได้เพิ่มขึ้นด้วย
เช่นเดียวกับ นายสุริยา สายิ เจ้าของสวนมะพร้าว ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ตนมีพื้นที่ปลูกมะพร้าวกว่า 30 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมามีพ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อมะพร้าวที่สวนของตน 1-2 ครั้งต่อเดือน ได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 1,000-2,000 ลูก แต่หลังจากนี้ทราบแล้วว่ามีโรงงานรับซื้อมะพร้าวอยู่ในพื้นที่ ตนจะนำผลผลิตไปขายเอง เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายมะพร้าวที่เพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง และไม่โดนกดราคาต่อไป
อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนและดำเนินงานของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนา และแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในระดับฐานราก ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของรัฐบาล เพื่อมุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ มีอาชีพ มีรายได้ และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน