สตูล - ป.ป.ช.ภาค 9 ลง จ.สตูลตรวจสอบข้อเท็จจริงพื้นที่เสี่ยงทุจริตก่อสร้างถนนฝายคลองท่าแพ มูลค่ากว่า 9 ล้านบาท สร้างเสร็จไม่ถึงปีพังหลายจุด เป็นปลายเหตุหรือต้นเหตุของการทุจริต
วันนี้ (22 มิ.ย.) หลังจากมีการร้องเรียนผ่านชมรมสตองจิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดสตูล นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 9 พร้อมด้วย นายสุรพงศ์ เจริญการยนต์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสงขลา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการชลประทานสตูล และนายธนกฤต เลิศวิริยวรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสตูล และหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหา และข้อเท็จจริง โดยพบจุดใหญ่ที่สภาพถนนเสียหายชำรุดเป็นหลุม และบ่อเป็นช่วงๆ พื้นแตกบวม ขอบถนนพังเป็นทางยาว บางช่วงพังเกือบ 20 เมตร ทั้งที่มีการซ่อมแซมไปแล้ว 1 ครั้ง ในช่วงเวลาไม่ถึงปีหลังโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ
จากประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตด้านการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐาน กรณีโครงการ “ก่อสร้างถนนฝายคลองท่าแพ” ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล ที่พบสภาพปัญหาการก่อสร้างโครงการดังกล่าว เมื่อแล้วเสร็จไม่นานปรากฏสภาพถนนชำรุด ใช้งานไม่ได้บางส่วน และกระบวนการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างอาจมีความผิดปกติ โดยปีงบประมาณ 2564 ไตรมาสที่ 1 สำนักงานชลประทานสตูล จัดทำโครงการลักษณะเดียวกันในพื้นที่ใกล้เคียงกัน 4 โครงการ มีผู้เข้าซื้อซอง 11 ราย ยื่นซอง 3 ราย แต่มีผู้เข้าเสนอราคาเพียงรายเดียว โดยใช้วิธีการคัดเลือก
ซึ่งโครงการฯ เริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 สิ้นสุดสัญญา 20 เมษายน 2564 (โดยมีการประกันความชำรุดบกพร่องของงานจ้างกำหนด 2 ปี) ระยะทาง 2 กิโลเมตร งบประมาณ 9.2 ล้านบาท เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการสัญจรไปมา และบรรทุกพืชผลทางการเกษตร โดยพบว่ามีรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดไว้ 6 ตัน ใช้เส้นทางนี้จำนวนมาก ทำให้ถนนบางส่วนเกิดการชำรุดเสียหาย โดยวันที่ 28 มิ.ย. 2564 ทางฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 โครงการชลประทานสตูล ได้แจ้งถนนชำรุดเสียหาย โดยให้ทางบริษัทเข้าแก้ไขตามเงื่อนไขเร่งด่วนภายใน 15 วัน
น.ส.ฟาตีม๊ะ พุ่มโพธิ์ กรรมการชมรมสตองจิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดสตูล กล่าวว่า ฝากผู้ดูแลทุกคน ไม่ใช่เฉพาะเจ้าของโครงการชลประทาน รถบรรทุกดินและทุกๆ ส่วนที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ และจะได้ใช้ประโยชน์กันนานๆ
ขณะที่ นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 9 กล่าวว่า ป.ป.ช.ภาค 9 ลงพื้นที่มาในครั้งนี้ มาดูว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบ และจะแก้ไขปัญหาตรงนี้อย่างไร ส่วนกรณีมีการทุจริตอย่างไร เบื้องต้นยังไม่ได้ลงลึกไปขนาดนั้น แต่ไม่ได้เป็นประเด็นที่เราทิ้ง โดยทาง ป.ป.ช.จะเข้ามาดูหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อคลี่คลายปัญหาให้ใช้ประโยชน์ได้ ตามที่เจตนารมณ์ต้องการจะทำถนนไว้
ด้านนายสุรพงศ์ เจริญการยนต์ ผอ.โครงการชลประทานสงขลา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการชลประทานสตูล กล่าวว่า ถนนเส้นนี้เป็นถนนบนคันคลองที่ใช้ลำเลียงพืชผลทางการเกษตร เป็นถนนลูกรังซึ่งมีการขนย้ายไม่เยอะ โดยเราพัฒนาขึ้นมาเป็นถนนลาดยางตามความต้องการของพี่น้องประชาชน ทำให้เส้นทางนี้มีความสะดวกสบาย มีการหลีกเลี่ยงการจราจรที่แออัดมาใช้เส้นทางนี้ที่สะดวกสบายเยอะขึ้น เป็นการย่นระยะทางทำให้มีการใช้เส้นทางนี้มากยิ่งขึ้น ปัญหาหลักๆ คือการบรรทุกน้ำหนักเกิน
โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ของ ป.ป.ช. ตามโครงการต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริตภาค 9 จังหวัดสตูล โดยประเด็นศึกษาความเสี่ยงต่อการทุจริตกรณีโครงการก่อสร้างถนนฝายคลองท่าแพ ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล พร้อมร่วมประชุมหารือร่วมกับทางจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช.ส่วนกลาง สำนักงานป.ป.ช.ภาค สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด และเครือข่ายภาคประชาชน (ชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริต) เพื่อให้ได้ข้อตกลงร่วมกันในการดำเนินการแก้ไขปัญหาระหว่างจังหวัดกับสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสตูล