นราธิวาส - “นัจมุดดีน อูมา” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ระบุพรรคให้ความสำคัญกับตาดีกาแดนใต้ ขณะที่กระแสกัญชาเสรีขอชาวไทยมุสลิมยึดคำวินิจฉัยสำนักจุฬาราชมนตรี ซึ่งเชื่อมั่นทุกคนคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนและชาติเป็นหลัก
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่สนามหญ้าเทียมเปี่ยมสุข ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส นายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาส หลายสมัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายลุตฟี หะยีอีแต ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมเปิดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาสัมพันธ์ ชมรมตาดีกา ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาส จำนวน 67 ศูนย์ ซึ่งมีผู้ครูผู้สอน อุสตาซ และอุซตาซซะห์ ครูสอนตาดีกา นักกีฬาชายหญิง รวม 558 คน เข้าร่วมกิจกรรม 2 ชนิดกีฬา คือ กีฬาชายแข่งขันฟุตบอล และกีฬาหญิง แข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดี ต่อหมู่คณะ สร้างความรักสามัคคี และสร้างคนรักกีฬาเพื่อเสริมสุขภาพที่ดีต่อประชาชน และเพิ่มศักยภาพทางการศึกษาโรงเรียนตาดีกา
โดยก่อนการแข่งขันกีฬา นายนัจมุดีน อูมา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวพบปะกับครูตาดีกาว่าตนในฐานะคนพื้นที่ และเป็น ส.ส.หลายสมัย เข้าใจประชาชนและพื้นที่ที่อยากเห็นบ้านเรา คือ นราธิวาส และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก้าวพัฒนาอย่างเป็นระบบ สถานการณ์ปัจจุบันเชื่อว่าทุกฝ่ายทางการเมืองมุ่งมั่นในเรื่องเหล่านี้ เพื่อให้เกิดความมั่นคง และเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทุกนโยบายทุกโครงการ ต้องผ่านการผลักดันพรรคฝ่ายรัฐบาล และร่วมถึงพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรครัฐบาล ที่จะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ตลอดจนงบประมาณหลายโครงการจึงจะได้รับอนุมัติ เพื่อนำไปพัฒนาและแก้ปัญหาพื้นที่ได้
อย่างไรก็ตาม นายนัจมุดดีน กล่าวอีกว่า ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะผู้กับกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. โดยที่ทางสมาคมและชมรมตาดีกาสอนศาสนาอิสลาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ สังกัด สช. ได้ทำหนังสือเรียกร้อง โครงการอาหารกลางวัน ให้นักเรียนตาดีกา เมื่อวันที่ 28 และ 29 มกราคม 2565 และ รมช.ศึกษา ได้ผลัดดันติดตามโครงการส่งเสริมการสร้างคนดีตามหลักการทางศาสนาที่ถูกต้องเพื่อร่วมสืบสานและรักษาสังคมพหุวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสนับสนุนอาหารกลางวันให้เด็ก งบอาหารกลางวันตาดีกา ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบแล้วจำนวน 388 ล้านบาท ซึ่งพรรคภูมิใจไทยและรัฐบาลชุดนี้ผลักดันเรื่องนี้จนประสบผลสำเร็จ
ประเด็นต่อมา คือเรื่องกัญชง กัญชาเสรี ซึ่งในพื้นที่ ซึ่งเป็นกระแสในสื่อหลักและสื่อโซเชียล โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเรื่องนี้ขอทำความเข้าใจ ต้องยึดคำวินิจฉัยของสำนักจุฬาราชมนตรี ในเรื่องกัญชง กัญชา นั่นคือ 2 ข้อ คือ กัญชาหากมีไว้เสพเพื่อการมึนเมา คือ ฮารอม ผิดหลักศาสนา และข้อที่ 2 คือ มีกัญชงกัญชา เพื่อนำมาซึ่งเพื่อสุขภาพและประโยชน์ทางการแพทย์ ได้รับการยกเว้น เป็นสิ่งที่ทำได้ ฉะนั้น ประชาชนควรใช้วิจารณญาณและใช้สติ ยึดมั่นคำวินิจฉัย หรือฟัตวา ของสำนักจุฬาราชมนตรี ซึ่งเชื่อมั่นทุกคนคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนและชาติเป็นหลัก
