สุราษฎร์ธานี - คนร้ายขับเก๋งลอบวางเพลิงเผารถแบ็กโฮ 2 คัน ที่กำลังก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดคดี เป็นโครงการสำคัญที่แก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน มั่นใจจับคนร้ายได้แน่นอน
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรักษ์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ บุญแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกาญจนดิษฐ์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผารถแบ็กโฮ 2 คัน พื้นที่ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. วานนี้ (17 มิ.ย.) บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งคลองฮาย หมู่ที่ 10 บ้านปากฮาย ต.ป่าร่อน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินการโดยสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 15 สุราษฎร์ธานี วงเงินงบประมาณ 9 ล้านบาท
ที่เกิดเหตุพบรถแบ็กโฮ 2 คัน ถูกคนร้ายเผาในห้องควบคุมจนเสียหาย โดยรอบคันมีร่องรอยการทุบทำลายกระจก และมีไม้พันผ้าลักษณะเหมือนคบเพลิงตกอยู่
นายบุญส่ง จันทรภัคดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 บ้านปากฮาย กล่าวว่า เมื่อช่วงเกิดเหตุชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ เห็นรถยนต์เก๋งขับมาที่เกิดเหตุ และมีคนลงมา 2 คน ก่อนจะได้ยินเสียงทุบกระจกรถแบ็กโฮ จากนั้นก็มีเพลิงลุกไหม้ในเวลาต่อมา แต่ด้วยความมืดชาวบ้านจึงไม่เห็นรูปพรรณคนร้ายและยานพาหนะ แต่ได้แจ้งชาวบ้านช่วยกันดับไฟ
จากการลงพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว ยอมรับว่าเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดเปราะบาง เมื่อเกิดอุทกภัยจะได้รับความเสียหายหนักทุกปี ซึ่งโครงการก่อสร้างนี้เป็นการร้องขอมาจากชาวบ้าน และได้รับการสนับสนุนจากกรมชลประทาน โดยเริ่มโครงการเมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้ และมีกำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 30 กันยายน 2565 เพื่อเตรียมรับมืออุทกภัยช่วงปลายปี การกระทำดังกล่าว สร้างผลกระทบให้ชาวบ้าน และขัดขวางการพัฒนาบ้านเมือง
ส่วนด้านการสืบสวนสอบสวนค่อนข้างมั่นใจในฝีมือของตำรวจที่จะตามจับคนร้ายได้โดยเร็ว แต่การสืบสวนยังไม่เปิดเผยเหตุจูงใจ หรือประเด็นการก่อเหตุ เนื่องจากจะกระทบต่อรูปคดี
