xs
xsm
sm
md
lg

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงอินโดฯ 1 ลำ พร้อมลูกเรือ รุกล้ำทำประมงในเขตน่านน้ำไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงสัญชาติอินโดนีเซียได้ 1 ลำ พร้อมลูกเรือ 11 คน ขณะลักลอบเข้ามาทำประมงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตก 45 ไมล์ทะเล ครึ่งปี 65 จับแล้ว 3 ครั้ง


เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา จ.ภูเก็ต ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 (ศรชล.ภาค3) โดย นาวาเอกณฐพงศ์ เศวตรัฐ ผู้บังคับการหมวดเรือเฉพาะกิจ ศรชล.ภาค 3 พร้อมด้วย นาวาเอกพิเชษฐ์ ซองตัน ผู้อำนวยการกองสารนิเทศ สำนักฝ่ายอำนวยการ ศรชล.ภาค 3 ทำหน้าที่โฆษก ศรชล.ภาค 3 นายสมยศ วงษ์บุญยกุล นายกสมาคมชาวประมงภูเก็ต ตัวแทนจากประมงจังหวัดภูเก็ต ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมง เขต 3 (ภูเก็ต) ตำรวจน้ำ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงสัญชาติอินโดนีเซีย รุกล้ำเข้ามาทำประมงในเขตน่านน้ำไทยได้ 1 ลำ พร้อมลูกเรือ 11 คน ได้ที่บริเวณห่างจากทิศตะวันตกของเกาะภูเก็ต ประมาณ 45 ไมล์ทะเล


นาวาเอกณฐพงศ์ เศวตรัฐ ผู้บังคับการหมวดเรือเฉพาะกิจ ศรชล.ภาค 3 กล่าวถึงการจับกุมเรือประมงอินโดนีเซียในครั้งนี้ ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2565 ศูนย์ปฏิบัติการ ศรชล.ภาค 3 ได้รับแจ้งจากเครือข่ายประมงในพื้นที่ ว่า พบกลุ่มเรือประมงต่างชาติกำลังลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทย บริเวณแลตติจูด 7 องศา 41 ลิปดา 50 ฟิลิปดา ลองจิจูด 97 องศา 38 ลิปดา 59 ฟิลิปดา หรือประมาณ 45 ไมล์ทะเล ทางทิศตะวันตกของเกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย พล.ร.ท.สมพงษ์ นาคทอง ผอ.ศรชล.ภาค 3 ได้สั่งการให้ศูนย์ยุทธการ ศรชล.ภาค 3 (ศยก.ศรชล.ภาค 3) และหมวดเรือ ศรชล.ภาค 3 ร่วมกันวางแผนการปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อออกปฏิบัติการในพื้นที่เป้าหมาย

จึงได้จัดเรือหลวงแหลมสิงห์ ออกปฏิบัติการในครั้งนี้ จนเวลา 20.00 น. เรือหลวงแหลมสิงห์ ได้ทำการจับกุมเรือประมงอินโดนีเซียที่ลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทยได้จำนวน 1 ลำ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เรือประมงอวนล้อมมีขนาดยาวประมาณ 60 ฟุต มีลูกเรือเป็นชาวอินโดนีเซียจำนวน 11 คน หลังจากที่ได้ทำการจับกุมแล้วเรือหลวงแหลมสิงห์ได้นำเรือประมงที่จับได้พร้อมลูกเรือเข้าฝั่งที่ท่าเรือรัษฎา เพื่อนำส่ง สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.ประมงต่อไป


อย่างไรก็ตาม การจับกุมในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 ในปี 2565 นี้ โดยครั้งแรกสามารถจับได้ที่บริเวณห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 40-45 ไมล์ทะเล ครั้งที่ 2 ที่บริเวณเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล และครั้งนี้ที่บริเวณทางทิศตะวันตกของเกาะภูเก็ต 45 ไมล์ทะเล โดยจุดที่จับกุมได้นั้นอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย ซึ่งในจุดนี้ทาง ศรชล.ภาค 3 ได้เฝ้าติดตามและป้องกันไม่ให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาทำประมงในบริเวณดังกล่าว ทั้งการลาดตระเวนทางอากาศ เรือลาดตระเวน และเครือข่ายเรือประมงไทยที่ทำประมงอยู่ในบริเวณดังกล่าว


ด้าน นายสมยศ วงษ์บุญยกุล นายกสมาคมชาวประมงภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเรือประมงไทยที่ไปทำประมงในบริเวณดังกล่าวพบเห็นกองเรือประมงต่างชาติ โดยเฉพาะเรือประมงสัญชาติอินโดนีเซียลักลอบเข้ามาทำประมงในบริเวณเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทยอยู่บ่อยครั้ง มาเป็นกองเรือไม่ต่ำกว่า 10 ลำ แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องการสื่อสารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำในการเข้าจับกุม ทำให้เรือประมงดังกล่าวหลบหนีออกนอกจากน่านน้ำไทยไปได้ก่อนที่ถูกจับกุม ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณดังกล่ามีสัตว์น้ำชุกชุม เรือประมงอินโดฯ ซึ่งมีความชำนาญในการวางอวนล้อมซัง และบางครั้งเรือประมงต่างชาติได้ขโมยสัตว์น้ำที่เรือประมงไทยได้วางซังได้เช่นกัน ซึ่งสร้างความเสียให้เรือประมงไทยอย่างต่อเนื่อง




กำลังโหลดความคิดเห็น