xs
xsm
sm
md
lg

สุดเวทนา! พบหญิงป่วยโรคประหลาดเป็นแผลเปื่อยทั้งร่าง หมอเผยเป็นรายแรกๆ ของไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครศรีธรรมราช - เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหญิงวัย 62 ปี ชีวิตแร้นแค้นยังชีพด้วยเบี้ยผู้สูงอายุ และยังป่วยด้วยโรคประหลาดเป็นแผลเปื่อยทั้งร่าง พี่สาวต้องคอยดูแลใกล้ชิด ขอเป็นกรณีศึกษาให้แพทย์วิจัยหาทางรักษา ด้านหมอเผยเป็นกรณีแรกที่พบในนครศรีธรรมราช และเป็นรายแรกๆ ของไทย

วันนี้ (8 มิ.ย.) พบผู้ป่วยที่มีชีวิตอย่างยากลำบากและต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดจากแผลทั่วทั้งร่างตลอดเวลา ผู้ป่วยรายนี้อาศัยอยู่อยู่ที่เรือนพักขนาดเล็กหลังบ้านเลขที่ 25 ซอยหัวหลาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ข้อมูลพบว่าภายในเรือนหลังนี้มีผู้ที่คอยดูแลรักษาผู้ป่วยคือ น.ส.จุลีพร ทองมาก อายุ 73 ปี เป็นพี่สาวต่างบิดาของผู้ป่วยคือ น.ส.จำเนียร นะพล อายุ 62 ปี หรือป้าเขียว

โดยพบว่า น.ส.จำเนียร ผู้ป่วยอยู่ในสภาพไม่สามารถลุกขึ้นนั่งหรือช่วยตัวเองได้ ต้องนอนบนแผ่นซับน้ำเหลืองและของเหลวที่ไหลซึมออกมาจากแผล มีแผลเปื่อยและพุพองทั้งร่างแทบไม่มีพื้นที่ว่างตั้งแต่ใบหน้า ศีรษะ จนถึงฝ่าเท้า เมื่อถามว่าเจ็บปวดมั้ย น.ส.จำเนียร หรือป้าเขียว บอกว่าเจ็บมากก่อนที่จะร่ำไห้และพูดอะไรไม่ออก


น.ส.จุลีพร ทองมาก พี่สาวของผู้ป่วย บอกว่า เดิมนั้นน้องสาวเป็นผู้ป่วยติดเตียงนานถึง 12 ปี จากอาการอัมพฤกษ์ซีกขวา แต่เมื่อราวกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา กลับเป็นโรคเพิ่มขึ้นมาอีก คือ เป็นตุ่มพุพองบวมน้ำขึ้นตามผิวหนังทั้งร่าง ไม่เว้นแม้กระทั่งในปาก หลังจากนั้นได้แตกเป็นแผลเปื่อยปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา โดยหลังจากเป็นตุ่มได้ไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราช และ รพ.เทศบาลนครนครศรีธรรมราช แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงจำเป็นต้องพากลับที่พักมาดูแลตามที่จะทำได้ แผลลุกลามเปื่อยทั้งร่างไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหายจากอาการนี้

น.ส.จุลีพร ยังบอกด้วยว่า ตนเองและน้องสาวพร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกอย่างกับทางแพทย์หากที่จะนำน้องสาวไปเป็นกรณีศึกษาวิจัยอาการที่เกิดขึ้น เพื่อหาวิธีการหรือตัวยาที่จะรักษาเขาให้หายจากการทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ แพทย์ที่โรงพยาบาลบอกว่าอาการนี้พบเป็นรายแรกที่นครศรีธรรมราช และน่าจะเป็นรายแรกๆ ของประเทศไทย ที่ยังไม่รู้สาเหตุและที่มาของโรค แพทย์ได้ระบุในเอกสารรักษาตัวเพียงว่าผิวหนังอักเสบเท่านั้น

“ส่วนตัวนั้นจนใจไม่รู้จะช่วยเหลือจำเนียรน้องสาวอย่างไร เพราะว่าที่ยังชีพอยู่ตอนนี้ด้วยเบี้ยคนพิการของเขาจำนวน 800 บาท และเบี้ยผู้สูงอายุที่ได้เพิ่มเป็น 1,000 บาท รวมของตัวเองอีก 700 บาท ที่อยู่ได้จนถึงขณะนี้เพราะมีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ และเจ้าของบ้านคือ นายธนารักษ์ เดือนจำรูญ ได้มีความกรุณาให้ที่อาศัยอยู่ได้” น.ส.จุลีพร กล่าว

ส่วนความช่วยเหลือในขณะนี้พบว่ามีเพียงโรงพยาบาลเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เพียงแห่งเดียวเท่านั้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลพร้อมเวชภัณฑ์เข้าให้การดูแลรักษาตามอาการ แต่ยังไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุ และอาการของผู้ป่วยรายนี้ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น