ปัตตานี - นายอำเภอยะหริ่ง นำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเยี่ยมนักเรียนที่ถูกทำร้ายร่างกายในสถานศึกษา ด้านโต๊ะครูคนก่อเหตุยอมรับผิด ขอโทษนักเรียนและครอบครัว รับปากจะเยียวยา อ้างทำไปเพราะโมโหนักเรียนชอบรังแกเพื่อน ห้ามหลายครั้งแล้วไม่ยอมฟัง จนโกรธเตะเข้าหน้าจนเลือดอาบ ตกใจสั่นทำอะไรไม่ถูก
วันนี้ (6 มิ.ย.) จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพเยาวชนถูกทำร้ายร่างกายภายในสถานศึกษาท่องจำอัลกุรอานแห่งหนึ่งใน ต.ตาแกะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานีนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำโดยนายอำเภอยะหริ่ง ได้เข้าพบนายซุใบดี อูเซ็ง โต๊ะครู และเจ้าของสถานศึกษาดังกล่าว
นายซุใบดี ยอมรับผิด โดยกล่าวทั้งน้ำตาว่า เป็นการกระทำด้วยอารมณ์โมโหชั่วขณะจากเหตุภาวะสะสมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความดื้อซ้ำซากของนักเรียน ที่มีนิสัยชอบรังแกเพื่อนนักเรียน และได้ห้ามปรามมาหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งครั้งที่ 5 ด้วยความโมโหจึงใช้เท้าเตะเข้าบริเวณหน้าอย่างจังจนเลือดอาบ ทำให้ตนเองสั่นทำอะไรไม่ถูก จึงบอกให้นักเรียนรุ่นพี่ช่วยนำส่งโรงพยาบาล เพื่อนนักเรียนจึงเดินออกไปหาโบกรถยนต์เพื่อนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลยะหริ่ง ซึ่งบังเอิญเป็นรถยนต์ของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ที่เป็นญาติของโต๊ะครู
"เสียใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเหตุที่ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น ขอโทษผู้เสียหาย ขอโทษครอบครัวน้องผู้เสียหาย และขอโทษสังคมกับสิ่งที่เกิดขึ้น รับปากที่จะเยียวยาผู้เสียหายในทุกกรณี"
ด้านนายโอฬาร บิลสัน นายอำเภอยะหริ่ง กล่าวว่า มาร่วมรับฟังข้อเท็จจริงกรณีมีเหตุทำร้ายเด็กปอเนาะได้รับบาดเจ็บ ผู้กระทำผิดยอมรับผิดด้วยเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ยอมรับผิดแล้วจะเข้ามาเยียวยา ในส่วนขั้นตอนของกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการตามข้อเท็จจริง ตอนนี้มาให้กำลังใจนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ เรื่องนี้มีการดำเนินการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
"วันนี้ทุกคนมาช่วยกันพูดคุยในทุกมิติ มีทั้งผู้นำศาสนา มากันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรยากาศให้ดีขึ้น ทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนรับข้อมูลข่าวสารอย่างระมัดระวัง อย่าได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไปเสริมเติมแต่ง อยากให้ทุกฝ่ายมีสติ คิดว่าทุกอย่างจะยุติด้วยดี ในเมื่อผู้กระทำยอมรับผิด ออกมายอมรับทุกสิ่ง ยินดีที่จะเยียวยา และได้ไปเยี่ยมผู้เสียหายมาแล้วเมื่อวาน และจะไปเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง" นายอำเภอยะหริ่ง กล่าว
นอกจากนี้ นายต่วนอานิส สาเหะอุเซ็ง นักพัฒนาสังคม (พมจ.) เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายนั้นมีสภาพพิการ 2 ส่วนด้วยกันคือ พิการการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกายประเภท 3 และพิการสติปัญญาประเภท 5 จึงต้องมาติดตามสถานการณ์อาการบาดเจ็บของนักเรียนในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด และวันนี้จะลงไปเยี่ยมนักเรียนที่บ้าน