ยะลา - ศอ.บต.เดินหน้าตรวจ DNA คนไทยที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ให้ได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน และมีบัตรประจำตัวประชาชน อำนวยความยุติธรรมให้บุคคลกลุ่มเปราะบางให้มีสิทธิเท่าเทียม
วันนี้ (18 พ.ค.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. จัดกิจกรรมการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) และอบรมเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้เข้าร่วมโครงการในประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาคนด้อยโอกาส และขาดโอกาสทางสังคม ณ ห้องประชุมน้อมเกล้า ชั้น 1 อาคารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้แทนพิเศษรัฐบาล เจ้าหน้าที่จากนิติวิทยาศาสตร์ สำนักทะเบียนจังหวัด สำนักทะเบียนอำเภอ และสำนักทะเบียนท้องถิ่นในจังหวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สำรวจรายชื่อบุคคลซึ่งไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน และบุคคลอ้างอิงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้รวมทั้งหมด จำนวน 577 คน
นายศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า สืบเนื่องจากปัญหาการตกสำรวจของทางราชการ การไม่แจ้งเกิด ความยากจน ความเชื่อเฉพาะถิ่น และการขาดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการรับรองสถานะทางทะเบียนราษฎร รวมถึงการไม่มีเอกสารของทางราชการ หรือไม่มีบุคคลที่สามารถเป็นพยานเพื่อยืนยันสถานภาพสำหรับการขอเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน และการออกบัตรประจำตัวประชาชนของกรมการปกครอง ทำให้ประชาชนบางส่วนกลายเป็นคนไทยไร้สัญชาติ หรือไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร จึงทำให้บุคคลเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ เสรีภาพ และการบริการขั้นพื้นฐานต่างๆ จากรัฐอย่างเท่าเทียมกับประชาชนที่มีสัญชาติไทย เช่น สิทธิในการได้รับการรักษาพยาบาล สิทธิในการศึกษา สิทธิในทรัพย์สิน
ดังนั้น เพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนอย่างเท่าเทียม ในปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงร่วมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู กระทรวงการต่างประเทศ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ริเริ่มกิจกรรมแก้ไขปัญหาคนไทยไร้สัญชาติ หรือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรเป็นครั้งแรก โดยดำเนินการช่วยเหลือคนไทยซึ่งไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ต่อมาในปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ถึงปัจจุบัน จึงได้ดำเนินการใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล และได้บูรณาการการทำงานร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้การช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาคนไทยไร้สัญชาติ หรือไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ให้ได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน และมีบัตรประจำตัวประชาชน โดยอาศัยผลการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) ความสัมพันธ์ทางสายโลหิต เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้บุคคลกลุ่มเปราะบางให้มีสิทธิเท่าเทียม
รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อย่างไรก็ตาม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาสถานะ และสิทธิของคนไทยที่ตกหล่นทางทะเบียนราษฎร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่า “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ รวมทั้งในพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และสงขลา ดังนั้น เพื่อให้บุคคลเหล่านี้สามารถเข้าถึงสิทธิ เสรีภาพ และการบริการขั้นพื้นฐานต่างๆ จากรัฐอย่างเท่าเทียมกับประชาชนที่มีสัญชาติไทย เพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนอย่างเท่าเทียม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาคนไร้สัญชาติ หรือไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรตลอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปี 2564 มีกลุ่มเป้าหมายที่เข้ายื่นความจำนงต่อกรมการปกครอง ซึ่งต้องดำเนินการ จำนวน 1,790 ราย ดำเนินการจนสามารถบันทึกในประวัติทะเบียนราษฎรได้แล้ว จำนวน 974 ราย คิดเป็นร้อยละ 54.4 เหลือรอดำเนินการอีก จำนวน 816 ราย คิดเป็นร้อยละ 45.6
ทางด้าน น.ส.แวซง แวหะมะ ประชาชนในพื้นที่ ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งนำบุตรชายอายุ 10 ขวบ เข้ารับการตรวจ DNA ในครั้งนี้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกดีใจที่ลูกจะได้รับสิทธิต่างๆ ตามสิทธิของประชากรคนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาจากปัญหาครอบครัว และลูกชายตนเองเกิดที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนใดๆ เลย ยอมรับว่าลำบาก ทั้งสิทธิที่จะได้รับการศึกษา และสิทธิที่จะได้รับการรักษาตามสถานพยาบาลของรัฐก็ทำไม่ได้ แต่หลังจากที่ทราบข่าว และเข้าร่วมโครงการนี้ ตนเองรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ขอบคุณภาครัฐ ศอ.บต. และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อำนวยความสะดวก และดำเนินการให้ลูกชายได้มีสิทธิเท่าเทียมคนอื่นๆ
