xs
xsm
sm
md
lg

กรณี “น้องโบนัส” ผอ.โรงเรียนยันเตรียมช่วยเหลือในทุกด้านแล้ว คาดเกิดจากความเข้าใจที่ผิดพลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พัทลุง - กรณี “น้องโบนัส” เด็กหญิงวัย 14 ปี ที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงด้วยความน่าเศร้า ด้าน ผอ.โรงเรียนสตรีพัทลุง ยืนยันโรงเรียนเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือดูแลไว้ทุกด้านแล้ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความเข้าใจที่ผิดพลาด

วันนี้ (16 พ.ค.) จากกรณีที่มีการโพสต์เรื่องราวลงในทวิตเตอร์ของน้องโบนัส หรือ ด.ญ.ปลอบขวัญ วัย 14 ปี ที่เจอปัญหามรสุมรุมเร้ามืดแปดด้าน จนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงด้วยความน่าเศร้า โดยในตอนท้ายมีการอ้างถึงครูโรงเรียนสตรีชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง ที่ได้ไล่น้องออกด้วย

ล่าสุด นางมาลี แก้วละเอียด ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีพัทลุง เผยว่า โรงเรียนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ระบบการดูแลนักเรียนทางโรงเรียนทำดีที่สุดแล้ว โดยที่ นายตุลยวัต เขียวจีน รอง ผอ. และ น.ส.จรรยา ชูเมฆ ครูที่ปรึกษา ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลเด็กคนดังกล่าวแล้วเช่นกันหลังจากที่ได้พูดคุยกับเด็กคนดังกล่าว แต่เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นักเรียนรายนี้ไม่ได้มาโรงเรียน หลังจากที่ติดต่อสื่อสารกับเด็กพบว่าเด็กไม่อยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง โดยไปอยู่กับมารดาที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ทราบว่าเด็กไม่สามารถมาเรียนในโรงเรียนนี้ได้ เนื่องจากไม่มีที่พักและไม่มีผู้ดูแล ครูผู้ดูแลเด็กจึงนำเรื่องนี้แจ้งให้ น.ส.จรรยา ซึ่งเป็นหัวหน้างานการดูแลเด็กนักเรียน ได้รับทราบเพื่อเร่งแก้ปัญหาให้นักเรียนคนดังกล่าว

ทางด้าน น.ส.จรรยา จึงได้ติดต่อสื่อสารไปยังเด็กคนดังกล่าว โดยได้เสนอแนวทางเลือกไป 2 ทาง ประกอบด้วย 1.พอที่จะสามารถศึกษาต่อในโรงเรียนใกล้บ้านได้หรือไม่ เพราะสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย 2.หากจะมาเรียนที่ จ.พัทลุง จะต้องไปพักอาศัยในบ้านพักเด็กโคกชะงาย อ.เมืองพัทลุง ซึ่งมีรถรับส่งไปกลับ และมีอาหารกินฟรี แต่ผู้เป็นแม่จะต้องมายินยอมในวันที่ 17 พ.ค.65 นี้ ต่อมาวันที่ 13 พ.ค. ทราบว่าเด็กเสียชีวิตเสียแล้ว ซึ่งทางคณะผู้บริหาร คณะครูได้เข้าร่วมในงานศพดังกล่าว และมอบเงินสวัสดิการให้ครอบครัวจำนวนหนึ่ง

ในส่วนของการดูแลเด็กนั้น น.ส.จรรยา ถือว่าเป็นผู้ที่รู้ข้อมูลของนักเรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุด และร่วมกับคณะครูในการช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบปัญหามาโดยตลอด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเราสามารถยืนยันได้ว่าครูได้พูดกับนักเรียนไปอย่างไรบ้าง แต่เรื่องนี้ตนยืนยันได้ว่าทางโรงเรียนได้เตรียมให้ความช่วยเหลือไว้ทุกด้านแล้ว เพียงให้ผู้เป็นแม่มาเซ็นหนังสือรับรองยินยอมให้เด็กไปพักอาศัยอยู่ในบ้านพักเด็กโคกชะงายเท่านั้น ซึ่งทางโรงเรียนไม่ทราบว่าครอบครัวของเด็กเป็นอย่างไร เพราะเด็กพักอาศัยอยู่นอกพื้นที่ จ.พัทลุง และการที่เด็กนำเรื่องพูดคุยกับเพื่อนนั้น อาจจะเป็นการแปลเจตนาของครูที่ผิดพลาดไปก็ได้ ในส่วนที่มีข่าวในโซเชียลระบุว่า เด็กคนนี้ไม่ได้รับทุนการศึกษานั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากเขาได้รับทุนมาทุกปี

ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีพัทลุง กล่าวอีกว่า ไม่มีครูคนใดที่ไม่มีความปรารถนาดีต่อนักเรียน การที่พูดกันว่าไม่มีเงินแล้วมาเรียนในโรงเรียนนี้ไม่ได้ไม่เป็นความจริงและเป็นไปไม่ได้ ทางโรงเรียนไม่ได้เร่งเก็บค่าบำรุงการศึกษา จะแจ้งให้มาชำระค่าบำรุงการศึกษาในวันไหนจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักเรียนคนไหนจะขอลดค่าบำรุงการศึกษา หรือจะขอยกเว้นการจ่ายค่าบำรุงการศึกษาขอให้ยื่นคำร้องได้ โดยในแต่และเทอมจะมีนักเรียนได้รับการยกเว้นการจ่ายค่าบำรุงเกือบ 100 คน เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการแปลเจตนาของเด็กต่อครูผิดพลาดไปหรือไม่เราไม่รู้ ขณะนี้ทางโรงเรียนได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นโรงเรียนไม่ได้กดดันจนนำไปสู่การเสียชีวิตของเด็กแต่อย่างใด เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการสื่อสารที่ไม่เข้าใจตรงกันระหว่างครูกับนักเรียน ซึ่งเด็กอาจจะเข้าใจผิดพลาดตามประสาเด็ก ซึ่งอาจจะเป็นช่องว่างจนทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวนี้มา อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะครูในแต่ละครั้งตนจะเน้นย้ำให้ครูได้ระมัดระวังในการสื่อสารกับนักเรียน เนื่องจากนักเรียนแต่ละคนอาจจะมีปัญหาสลับซับซ้อนไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจะส่งผลให้การสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนผิดพลาดขึ้นได้

ด้าน นายตุลยวัต เขียวจีน รอง ผอ.กลุ่มบริหารกิจการนักเรียน เผยว่า การคัดกรองนักเรียนนั้นได้เชิญนักจิตวิทยาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 มาร่วมคัดกรองด้วย และพบว่านักเรียนคนดังกล่าวนี้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยนักเรียนมีความประสงค์จะพบกับนักจิตวิทยาด้วย ซึ่งทางโรงเรียนจัดให้ตามคำร้องขอของนักเรียน แต่ไม่สามารถเผยรายละเอียดในเรื่องนี้ได้ ตนขอยืนยันว่าทางโรงเรียนได้เตรียมความพร้อมในการดูแลนักเรียนคนดังกล่าวแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้

ขณะเดียวกัน ทางด้าน น.ส.จรรยา ชูเมฆ ครูโรงเรียนสตรีพัทลุง ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ได้ปฏิเสธที่จะให้ข่าวกับสื่อมวลชน เนื่องจากรู้สึกเครียดและสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่ตนเองได้ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลเด็กอย่างเต็มที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม จากการที่ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปติดตามในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ น.ส.จรรยา พบว่า ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้เป็นตัวกลางในการระดมความช่วยเหลือจากเพื่อนครู พรรคพวกเพื่อนฝูงในการจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียน รองเท้า ชุดพละให้แก่นักเรียน พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณเพื่อนครู เพื่อนฝูงที่นำนักเรียนไปจัดซื้อกระโปรง รองเท้า ชุดพละให้นักเรียนด้วย รวมทั้งขอบคุณที่นำเสื้อผ้านักเรียนที่มีสภาพใหม่มามอบให้นักเรียนก่อนที่จะเปิดภาคเรียนอีกด้วย

ทางด้าน นายปริญญา อนุพินิจ นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสังคมกำลังสืบสวน คณะกรรมการจึงต้องทำเรื่องนี้ให้ความจริงปรากฏ ซึ่งตนยอมรับว่าโรงเรียนแห่งนี้มีระบบการดูแลนักเรียนที่เป็นสาระสำคัญและเป็นประเด็นหลักอยู่แล้ว ซึ่งจะสังเกตได้จากโรงเรียนต่างๆ ทั้งในและต่างจังหวัดได้เข้ามาศึกษาดูงานระบบการดูแลนักเรียนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทางผู้บริหาร คณะครูต่างรู้สึกสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อที่จะได้สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานให้สังคมได้รับทราบตามขั้นตอนต่อไป พร้อมกันนั้น ได้เรียกร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนงได้เสนอข่าวที่เกิดขึ้นโดยการสืบหาข้อเท็จจริงกันทั้ง 2 ฝ่าย อย่าได้ให้สังคมลงโทษโรงเรียน ผู้บริหาร และคณะครูเพียงฝ่ายเดียว


กำลังโหลดความคิดเห็น