นครศรีธรรมราช - คนร้ายโจรกรรมเหล็กตะแกรงรองเชิงตะกอนเผาศพ 4 ครั้งซ้อน สร้างความเดือดร้อนไปถึงคนตาย เจ้าอาวาสวัดต้องแก้ปัญหาจ้าละหวั่น เตือนผู้ครอบครองวิบัติเหตุเป็นวัตถุอาถรรพ์ คาดเอาไปทำของมีคมตามความเชื่อบางอย่าง
วันนี้ (11 พ.ค.) ที่เชิงตะกอนเมรุเผาศพ ตั้งอยู่ในวัดก้างปลา หมู่ 3 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นสถานที่ที่ถูกคนร้ายเข้าก่อเหตุโจรกรรมเหล็กตะแกรงเผาศพถึง 4 ครั้งซ้อน โดยครั้งที่ 4 เกิดขึ้นเมื่อ 3 วันก่อน คนร้ายได้บุกขึ้นไปบนเมรุเปิดเตาเผาศพแล้วลากเอาเชิงตะกอนเหล็ก ก่อนที่จะโจรกรรมเหล็กตะแกรงสำหรับรองเผาศพ หรือเหล็กที่รองรับร่างของผู้เสียชีวิตในขณะที่กำลังเผาหายไปถึง 8 ชิ้น น้ำหนักชิ้นละกว่า 5 กก. โดยชิ้นที่ 9 ที่เหลืออยู่นั้นตกอยู่ใกล้กับบันได ซึ่งคาดว่าคนร้ายได้ทำหล่นไว้ในขณะที่กำลังหลบหนีเหลือไว้เพียง 1 ชิ้น
โดย พระครูศรีธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดก้างปลา ต้องให้ช่างเชื่อมเหล็กข้ออ้อยขึ้นมาใหม่เนื่องจากมีศพเข้าเผาบนเมรุแห่งนี้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน โดยที่ยังไม่สามารถหาตะแกรงแบบเดิมมาทดแทนได้ เนื่องจากเป็นเหล็กหล่อชนิดพิเศษที่ทนความร้อนสูง หาช่างทำเฉพาะได้ยาก
พระครูศรีธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดก้างปลา เปิดเผยว่า คนร้ายได้เข้าก่อเหตุโจรกรรมเหล็กตะแกรงรองเผาศพแล้วถึง 4 ครั้ง ไม่สามารถติดตามนำมาคืนได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของวัดไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่าไปแช่ง อย่าไปทำอะไรเอาบาปบุณคุณโทษเป็นที่ตั้ง หายไม่เป็นไรขอให้คนที่โจรกรรมขอให้ได้เลี้ยงพ่อแม่
“ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรได้บ้าง ไม่มีความรู้ด้านนี้ไปถามร้านรับซื้อเหล็ก เขาบอกว่าไม่รับซื้อเพราะเป็นเหล็กพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามมีความเชื่ออีกด้านหนึ่งที่ว่าเหล็กประเภทนี้เป็นของอาถรรพ์ ใครครอบครองถึงแก่วิบัติ อย่าว่าแต่ให้มาจ้างให้ครอบครองไม่มีทางเอาเด็ดขาด เพราะของสิ่งนี้คือวิบัติมาแต่เดิม อยู่ที่ใครวิบัติมาแต่เดิม อยู่ที่ใครก็ทำให้คนครอบครองวิบัติ” เจ้าอาวาสวัดก้างปลา กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบหาข้อมูลเพิ่มเติมถึงเหล็กประเภทนี้ว่า จะเอาไปทำอะไรได้บ้าง ซึ่งได้รับคำตอบเบื้องต้นว่า ผู้ที่ซื้อนำไปหรือผู้เกี่ยวข้องอาจนำไปผสมเหล็กตามพิธีกรรมในการตีมีดหมอ ตีของมีคม โดยใช้เหล็กอาถรรพ์ที่ผ่านการเผาศพมาจำนวนมากแล้ว เพื่อใช้อาถรรพ์ไปแก้อาถรรพ์ตามความเชื่อโบราณ แต่อย่างไรก็ตาม จากการก่อเหตุของคนร้ายที่เข้าไปโจรกรรมเหล็กชนิดนี้ในวัดก้างปลาถูกก่อเหตุแล้วถึง 4 ครั้ง อาจเป็นกลุ่มติดยาที่ต้องการหาเงินด้วยการโจรกรรมไปขายเป็นผู้เข้ามาก่อเหตุก็เป็นได้
