นครศรีธรรมราช - คลิปเสียงฉาวพ่นพิษ! “หลวงพี่กาโตะ” ลาสิกขาแล้ว ขอรักษาหมู่คณะสงฆ์ไม่ให้เสียหาย ก่อนเดินทางออกจากวัดกลับไปยังภูมิลำเนาใน อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
ภายหลังจากที่ พระพงศกร จันทร์แก้ว หรือ “พระกาโตะ” พระนักเทศน์ชื่อดัง ตกเป็นข่าวฉาวที่ถูกให้ความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกระแสสังคมได้กดดันอย่างหนัก ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พระพงศกร หรือพระกาโตะ พร้อมคนใกล้ชิดได้เข้าพบพระผู้ใหญ่หลายรูปเพื่อเข้ามนัสการ และแสดงความประสงค์ในการตัดสินใจที่จะยุติการครองสมณเพศ หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังวัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เข้ากราบนมัสการ พระราชวิสุทธิกวี เจ้าคณะภาค 16 ธรรมยุติ พระครูสิริธรรมาภิรัตน์ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ธรรมยุติ และพระครูอัครธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง ธรรมยุติ เพื่อแสดงเจตนาในการลาสิกขา
โดยพระครูสิริธรรมาภิรัตน์ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ทำบันทึกถ้อยคำให้พระกาโตะ ในการแสดงเจตนาลาสิกขา โดยที่ไม่มีใครบีบบังคับแต่อย่างใด พร้อมทั้งมีพระสงฆ์ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามในหนังสือตามขั้นตอน หลังจากนั้น พระกาโตะ ได้กราบขอขมาพระเถระที่มาเป็นพยานในการลาสิกขา
พระครูอัครธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง ซึ่งเป็นพระอุปัชณาจารย์ของพระกาโตะ ได้กล่าวให้โอวาท พร้อมทั้งระบุการลาสิกขาเป็นไปด้วยเจตนาของพระกาโตะเอง ที่ถึงรักษาหมู่คณะสงฆ์ ทางออกนี้เป็นทางที่สง่าผ่าเผยที่สุด ไม่มีใครไปเบียดเบียน เป็นการปกป้องวงการสงฆ์ ออกอย่างสง่าผ่าเผย รักษาวงการสงฆ์ที่สั่นคลอนทั่วประเทศนี้ถือว่าเป็นทางออกที่ดี ไม่มีใครรังเกียจ โดยส่วนตัวในฐานะอุปัชฌาย์ชื่นชอบอะไรหลายอย่างที่ได้ปฏิบัติมา เมื่อมาได้แค่นี้ก็คือแค่นี้ไปทำบุญได้
ด้านพระกาโตะ ได้กล่าวเพียงว่า การบวชนั้นได้บวชเพื่อโยมพ่อโยมแม่ หวังพึ่งพาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เพื่อให้โยมแม่ เป็นเพียงพระนวกะที่ยังอ่อนหัดในพระธรรมวินัยอย่างมาก เพื่อลบอุปสรรคนี้ จึงตัดสินใจยุติในการดำรงเพศบรรพชิต จึงขอโอกาสขอขมาพระอาจารย์ทุกรูป และขอลาสิกขาในวันนี้ หลังจากนั้น พระกาโตะได้เข้าสู่พิธีการลาสิกขา เปล่งวาจาเป็นภาษาบาลีตามลำดับ โดยมีพระสงฆ์ที่เป็นสักขีพยานเป็นผู้ประกอบพิธีลาสิกขาให้ และทำการปลดผ้าสังฆาฏิแล้วจึงไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นฆราวาส ก่อนที่จะมาสมาทานเป็นฆราวาส แล้วรับน้ำมนต์จากพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นได้เดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาใน อ.ฉวาง
หลังจากที่พระกาโตะได้แสดงตนสึกออกจากการเป็นพระสงฆ์แล้ว จึงส่งผลให้การดำเนินการทางวินัยสงฆ์เป็นอันยุติ โดยหลังจากนี้หากมีกรณีที่เกี่ยวข้อง และเข้าข่ายละเมิด อาจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ก็ได้
