พังงา - เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สนธิกำลังเข้าตรวจสอบแนวเขตที่ดินจุดชมวิวเสม็ดนางชี หลังชาวบ้านร้องเรียนให้ตรวจสอบนายทุนปรับหน้าดินสร้างรีสอร์ต และจุดชมวิวสกายวอล์ก ด้วยเงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ว่าอยู่ในเขตป่าหรือไม่
จากกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องการเปิดหน้าดินและปรับสภาพพื้นที่ตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นไปบนภูเขา ซึ่งอยู่ติดกับถนนสายบ้านท่าอยู่-บ้านแหลมแดง ในพื้นที่ ม.2 บ้านหินร่ม ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ยอดเขาที่มีความลาดชันมาก โดยสภาพที่ดินที่ถูกเปิดหน้าดินมีการเว้นระยะไม้ยืนต้นไว้ประปราย ด้านหน้าเขาเป็นจุดชมวิวชื่อดังของจังหวัดพังงา ที่เรียกว่า “เสม็ดนางชี” โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และดีเอสไอ เข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับนัดให้ผู้ครอบครองนำเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดินมาชี้แนวเขต เพื่อจะพิสูจน์ว่าพื้นที่อยู่ในเขตป่าไม้หรือไม่
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 20 เมษายน 2565 ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกับตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ตำรวจสืบสวนภาค 8 ตำรวจ สภ.ตะกั่วทุ่ง กอ.รมน.พังงา ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ โดยมีตัวแทนของเครือกะตะ กรุ๊ป นำเอกสารที่ดินรวม 7 ฉบับ เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ นำชี้แนวเขตที่ดิน พร้อมยืนยันว่าได้ซื้อรวบรวมมาอย่างถูกต้อง เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2561 จากเจ้าของเดิม 7 ราย ซึ่งเดิมนั้นเป็นสวนยางพารา และเปิดเผยว่า ทางกะตะ กรุ๊ป ได้ปรับพื้นที่เตรียมก่อสร้างโครงการ BEYOND SKY WALK NANGSHE ซึ่งที่เป็นรีสอร์ต พร้อมด้วยสวนดอกไม้ ร้านกาแฟ และจุดชมวิวสกายวอล์ก ด้วยเงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจจับพิกัดมาตรวจสอบว่าพื้นที่อยู่ในเขตป่าหรือไม่ พร้อมกับประสานกับที่ดินอำเภอตะกั่วทุ่งตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารสิทธิครอบครอง ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่ผ่านมามีการร้องเรียนไปแล้วหลายครั้งในเรื่องของการบุกรุกป่าในพื้นที่ภูเขาพื้นที่จุดชมวิวเสม็ดนางชี และพื้นที่ใกล้เคียง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เคยตรวจสอบให้แล้วเสร็จ ปล่อยให้เรื่องคาราคาซังอยู่อย่างนี้