ยะลา - ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา ‘ร.ท.ปืนดุ’ ยิง ‘จ.ส.อ.’ เสียชีวิตคาร้านข้าวต้มกลางเมืองยะลา ด้านผู้การฯ ชี้ ผบช.ภาค 9 ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่
จากเหตุการณ์เหตุยิงกันตาย ที่ร้านข้าวต้มน้องฟ้า เลขที่ 19-21 ถนนจงรักษ์ ภายในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อช่วงดึกของวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.53 น. ร.ต.อ.สมชาย ช่วยมาก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองยะลา ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวรคดีอาญา ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลา ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ตรวจที่เกิดเหตุ และเก็บวัตถุพยานที่เกิดเหตุทั้งหมด พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ควบคุมตัว ร.ท.พจน์จรินทร์ วังขุนพรหม อายุ 41 ปี สังกัด ร.152 พัน 3 ที่อยู่ 39 ถนนเทศบาล 8 เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ผู้ก่อเหตุ พร้อมยึดอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ 9 มม. ยี่ห้อบาเร็ตต้า สีดำ จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนอยู่ในแมกกาซีน จำนวน 4 นัด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงดึกของวันที่ 20 เม.ย. เวลาประมาณ 01.50 น. ร.ท.พจน์จรินทร์ ได้เกิดทะเลาะกับ จ.ส.อ.ธวัช วงค์พลาย ตำแหน่ง รอง ผบ. ร้อย ทพ.4614 ทำให้ ร.ท.พจน์จรินทร์ ได้ใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวยิงเข้าใส่ จ.ส.อ.ธวัช จำนวนประมาณ 9 นัด ถูกบริเวณสีข้างด้านซ้ายประมาณ 4 นัด หน้าอกขวา 1 นัด บริเวณลำคอ 1 นัด และบริเวณด้านหลัง 3 นัด เป็นเหตุให้ จ.ส.อ.ธวัช เสียชีวิตคาที่ และ อส.ทพ.รัชชานนท์ ลายสิงห์ อายุ 26 ปี ที่อยู่ 28/1 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช โดนกระสุนแฉลบบริเวณหน้าขาซ้าย 1 นัด หลังก่อเหตุ ร.ท.พจน์จรินทร์ ได้นั่งรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว พร้อมได้ยึดอาวุธปืนเป็นของกลาง พนักงานสอบสวนได้นำศพผู้ตายไปชันสูตรพลิกศพร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ส่วนผู้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งได้ลงประจำวันไว้เพื่อรายงานต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศวันนี้ที่ร้านข้าวต้มน้องฟ้า เลขที่ 19-21 ถนนจงรักษ์ ภายในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ร้านได้ปิดประตูเหล็กล็อกกุญแจด้านใน ข้าวของภายในร้านถูกเก็บกวาดเรียบร้อย ส่วนบริเวณด้านหน้าร้านมีการทำความสะอาดล้างพื้น ไม่พบผู้อาศัยแต่อย่างใด
ส่วนที่ สภ.เมืองยะลา พบว่ามีเพื่อนทหารจำนวนหนึ่งเข้าเยี่ยม และพูดคุยกับ ร.ท.พจน์จรินทร์ บริเวณหน้าห้องขัง โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พยายามฆ่าผู้อื่น และ 3.พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร แต่ทั้งนี้ไม่มีรายงานการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์บุคคลที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ทั้งผู้ก่อเหตุ และผู้รอดชีวิต
ด้าน พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวในเรื่องนี้ว่า ความคืบหน้าตอนนี้ผู้ก่อเหตุมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน จากทางสอบสวน สภ.เมืองยะลา ได้สอบสอบพยานทราบว่าทั้งคู่ทะเลาะในร้านข้าวต้มน้องฟ้า สุดท้ายมีการทำร้ายกันผู้ก่อเหตุได้ชักอาวุธปืนพกสั้นยิง เท่าที่ฟังจากพนักงานสอบสวนเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี เรื่องยศตำแหน่ง การดำเนินคดีตอนนี้ตั้งข้อหาเรื่องของฆ่าคนตายโดยเจตนา พยายามฆ่า เรื่องการประกันตัวตอนนี้อยู่ที่ดุลพินิจของผู้กำกับ สภ.เมืองยะลา ว่ามีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง ให้อำนาจไปพิจารณา ผู้กระทำผิดนั่งรอมอบตัวสำนึกว่าสิ่งที่ทำลงไป เท่าที่ฟังจากพนักงานสอบสวนมีการมึนเมาทั้งสองฝ่าย มีการดื่มมาจากที่อื่นมาแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางผู้บัญชาการภาค 9 ได้เน้นย้ำกำลังพลทุกฝ่ายเรื่องพกอาวุธไปดื่มสุราให้ทุกคนมีสติ สิ่งสำคัญในห้วงนี้เป็นช่วงเดือนรอมฎอนของพี่น้องมุสลิม เป็นห้วงของเดือนสันติภาพ เจ้าหน้าที่รักษาความสงบในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุ ในเรื่องคดีไม่หนักใจ ผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายเป็นทหารทั้งคู่ และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
