กระบี่ - ปลุกตำนานกาแฟโรบัสต้า จาก "ตอ" กาแฟที่ถูกมองว่าไร้ค่า เจ้าของโค่นทิ้งเพราะราคาตกต่ำในสมัยรุ่นพ่อ นำมาพัฒนา ต่อยอดยกระดับสู่แบรนด์ดัง “ไร่ภูตะวัน” บ้านทะเลหอย จ.กระบี่ จนได้รับเลือกเป็น 1 ใน 10 “โรบัสต้า” ที่ดีที่สุดของประเทศ
กาแฟถือเป็นพืชเศรษฐกิจหนึ่งของประเทศ โดยนิยมปลูกในพื้นที่แถบภาคเหนือและภาคใต้ ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์และความเหมาะสม ปัจจุบันกลายเป็นเครื่องดื่มที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมดื่มทุกวัน กาแฟจึงเป็นเมนูอันดับต้นๆ สามารถเอามาผสมทำเครื่องดื่มอื่นๆ ได้หลากหลายประเภท เช่น นำกาแฟมาผสมกับน้ำส้ม น้ำมะพร้าว หรือผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆ โดยกาแฟแต่ละชนิดให้ความอร่อยแตกต่างกัน
สำหรับ จ.กระบี่ กาแฟสายพันธ์โรบัสต้า เป็นสายพันธุ์ที่เกษตรกรชาวสวนกาแฟนิยมปลูก เนื่องจากให้ผลผลิตดี มีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมกรุ่น คงความดุดันฉบับกาแฟสายพันธุ์ใต้ นิยมปลูกมากในแถบ อ.คลองท่อม อ.ลำทับ และ อ.ปลายพระยา ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรได้พยายามศึกษาเรียนรู้ จนสามารถพัฒนามาเป็นแบรนด์ของตัวเอง
อย่างเช่นกาแฟ "ไร่ภูตะวัน" ที่บ้านทะเลหอย ม.4 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ของ น.ส.จรี มานพ อายุ 35 ปี เจ้าของแบรนด์ “ไร่ภูตะวัน” บ้านทะเลหอย ที่สร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาจนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก กล่าวว่า หลายคนถามว่าทำไมจึงมาปลูกกาแฟอีก ทั้งๆ ที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เคยปลูกกาแฟมาครั้งหนึ่งเเล้ว ตอนช่วงประมาณปี พ.ศ 2505 ตอนสมัยรุ่นปู่ รุ่นพ่อ ซึ่งตอนนั้นกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจ ราคาดีมาก กาแฟสาร กิโลกรัมละ 100 บาท แต่มาช่วงหลังๆ ราคาเริ่มลดมาเหลือกิโลกรัมละ 15 บาท หลังจากนั้น ชาวบ้านเริ่มโค่นต้นกาแฟทิ้ง หันไปปลูกปาล์มน้ำมัน กับยางพาราแทน
พอมาอีกช่วงหนึ่ง ปาล์ม กับยางราคาตกต่ำอีก ตอนนั้นได้มานั่งปรึกษาคนในครอบครัว ว่า อยากจะโคนปาล์ม เเต่ไม่รู้จะปลูกอะไรดี บังเอิญมีต้นตอกาแฟที่ถูกโค่นทิ้ง แตกกอขึ้นมาใหม่ เริ่มให้ผลผลิต ช่วงนั้นเป็นช่วงปลายเดือนมกราคม ปี 2562 เข้าช่วงปลายฤดูกาลเก็บกาแฟ เลยลองเก็บเมล็ดกาแฟที่ยังหลงเหลืออยู่ เพื่อเอามาทำกาแฟสด ตั้งเเต่นั้นมาเริ่มเห็นแนวทาง เริ่มคิดว่าหากเราทำกาแฟเหมือนสมัยก่อน เก็บผลกาแฟขายอย่างเดียว ไม่นานราคากาแฟก็อาจจะกลับมาตกต่ำอีกได้
เลยเริ่มศึกษาหาข้อมูลตาม Google Youtube ถึงแนวทางการทำกระบวนการผลิตกาแฟโรบัสต้าคุณภาพ ให้ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค และได้ไปเรียนรู้ตามที่ต่างๆ ซึ่งจากการไปเรียนรู้ มีคำพูดอยู่คำหนึ่งที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้ คือคำว่า “เกษตรกรต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อาหาร ของกิน ของดื่ม หากต้นน้ำทำออกมาดี กลางน้ำก็นำไปปรุงได้หลายเมนู ส่งต่อไปให้ปลายน้ำ คือ ผู้บริโภคอย่างมีคุณภาพ”
หลังจากนั้นได้มีการปรับปรุงต้นตอกาแฟที่เคยมองว่าไร้ค่า ถูกโค่นทิ้งเพราะราคาตกต่ำให้กลับมามีความสมบูรณ์ และเริ่มปลูกกาแฟเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้น ยังได้รวมกลุ่มกันปลูกกาแฟเกษตรแปลงใหญ่ และพัฒนาคุณภาพกาแฟให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
จนกระทั่งได้รับการคัดเลือกติด 1 ใน 10 ของกาแฟโรบัสต้า ที่ดีที่สุดของประเทศ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สมาคมและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจภาคกาแฟ ร่วมกันจัดการประกวดสุดยอดกาแฟอราบิก้า และโรบัสต้า โครงการประกวดสุดยอดกาแฟไทย 2564 เพื่อค้นหาเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดี มีการดูแลอย่างดี จนได้เมล็ดกาแฟเกรดพิเศษ และส่งเสริมพัฒนากาแฟไทยให้มีคุณภาพดีสู่ระดับโลกเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้และความยั่งยืนของเกษตรกร
จากการประกวดที่ผ่านมาตัวเองในฐานะสมาชิกแปลงใหญ่กาแฟบ้านทะเลหอย เจ้าของแบรนด์ “ไร่ภูตะวัน”ได้รับการจัดลำดับที่ 10 ประเภทคุณภาพกาแฟที่มีระดับคะแนนของกาแฟโรบัสต้า ด้วยคะแนน 81.33 ได้รับประกาศนียบัตรเหรียญทองแดง
น.ส.จรี ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับพื้นที่บ้านทะเลหอย ความพิเศษของดินเป็นดินแดง เหมาะแก่การปลูกพืชกาแฟ ตอนนี้มีสมาชิกรวมกันปลูกกาแฟเกษตรแปลงใหญ่ประมาณ 30 ราย พื้นที่ปลูกกว่า 200 ไร่ โดยในปีนี้สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 18 ตัน และเมื่อนำมาตากแห้ง สีเป็นสารแล้วเหลือประมาณ 4 ตัน ขายได้ที่เฉลี่ย กก.ละ 70-75 บาท เป็นราคาเกรดโรงงาน หากว่านำมาคัดเกรดอย่างดี ราคาจะสูงขึ้นไปอีกถึง กก.ละ 200-300 บาท สำหรับตลาดกาแฟ ตอนนี้ค่อนข้างดีมาก
น.ส.จรี กล่าวด้วยว่า สำหรับผลิตภัณฑ์กาแฟ ของแบรนด์ไร่ภูตะวัน นอกจากจำหน่ายสารกาแฟดิบแล้ว ยังมีสารคั่วสำเร็จรูป มีทั้งคั่วอ่อน สำหรับคนชอบกาแฟรสชาติอ่อนๆ สารคั่วกลาง สำหรับคอกาแฟทั่วไป และสารคั่วเข้ม สำหรับคนที่ชอบกาแฟแบบเข้มข้น นอกจากนี้ มีแบบดริปแบ็ก กาแฟคั่วบดพร้อมชงดื่มได้ทันที สำหรับตลาดกาแฟ หลักๆ ของไร่ภูตะวันตอนนี้ส่งให้ร้านจำหน่ายกาแฟในตัวเมืองกระบี่ และตามออเดอร์ที่สั่งเข้ามา
ด้านนายชำนาญ นุ่นดำ เกษตรจังหวัดกระบี่ให้ข้อมูลว่า จังหวัดกระบี่มีพื้นที่ปลูกกาแฟโรบัสต้า จำนวน 1,500 ไร่เศษ ให้ผลผลิต 675 ตันเศษ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 40.5 ล้านบาท ซึ่งกาแฟกระบี่เป็นสินค้า GI ของจังหวัดจึงทำให้จังหวัดกระบี่มีกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟหลายแบรนด์ เช่น กาแฟคลองท่อม กาแฟไร่ภูตะวัน และกาแฟขี้ชะมด
สำหรับ น.ส.จรี มานพ เริ่มต้นด้วยการเป็นเกษตรผู้ปลูกกาแฟจากการส่งเสริมของสำนักงานเกษตรเกษตรจังหวัดกระบี่ โดยในปี 2561 ได้สนับสนุนองค์ความรู้แนวคิดด้านการเกษตร ต่อมาปี 2562 ได้รวมกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ โดยใช้ชื่อแปลงใหญ่กาแฟบ้านทะเลหอย และได้จัดทำแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาและรับซื้อผลผลิตของเพื่อนสมาชิกในราคาที่เป็นธรรม ปี 2564 สำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ได้สนับสนุนงบประมาณโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้ากาแฟ และจัดทำเป็นแปลงสาธิตการเรียนรู้กาแฟให้เกษตรกรที่สนใจได้เรียนรู้ และในปี 2565 เกษตรจังหวัดกระบี่ พร้อมหนุนให้เป็น กาแฟอินทรีย์ต่อไป เพื่อดึงดูดและเป็นจุดขายใหม่