นครศรีธรรมราช - สิชลอ่วมหลังน้ำลด ย่านธุรกิจบ่อเลี้ยงกุ้งพังยับเยิน คาดเสียหายนับ 100 ล้านบาท ส่วน 10 อำเภอชายฝั่งอ่าวไทยยังท่วมขังเร่งระบาย เมืองนครศรีฯ ถูกน้ำเข้าท่วมบางส่วน
สภาพน้ำท่วมในพื้นที่ ต.เสาเภา และ ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จากเมื่อวานจนถึงขณะนี้ หลังจากเกิดน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรง เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันอย่างหนัก ความคืบหน้าในวันนี้ (6 เม.ย.) ระดับน้ำได้ลดลงไปจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทิ้งไว้แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างหนัก โดยเฉพาะย่านกิจการเลี้ยงกุ้งทะเลแถบ ต.ทุ่งปรัง และ ต.เสาเภา บ่อกุ้งที่กำลังได้ขนาด และเตรียมที่จะเปิดบ่อจับส่งขายในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมจำนวนมาก มูลค่าสูงนับล้านบาทต่อ 1 บ่อ ถูกกระแสน้ำพัดเข้าท่วม คันกั้นบ่อแตก กุ้งที่เลี้ยงไว้หายไปกับกระแสน้ำทั้งหมด
ทั้งนี้ คาดว่าความเสียหายโดยรวมใน 2 ตำบลนี้อาจสูงนับ 100 ล้านบาท ที่เหลืออยู่ไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้ทัน เจ้าของและคนงานทำได้เพียงเข้าเก็บกู้อุปกรณ์การเลี้ยง เช่น เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องตีน้ำเท่านั้น ส่งผลให้การเลี้ยงกุ้งในฤดูกาลนี้เสียหายอย่างสิ้นเชิง บางคนถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวจากการลงทุนนับล้านบาท
ส่วนสถานการณ์น้ำป่าที่หลากลงมาตลอดแนวเทือกเขาหลวงฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะในพื้นที่ต้นน้ำคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา ได้ส่งผลกระทบต่อชุมชนริมคูเมือง ทางด้านตะวันตกของเมืองนครศรีธรรมราช เช่น ชุมชนนอกคอก ชุมชนราเมศวร์ ชุมชนบ้านตก ชุมชนท่าช้าง ชุมชนบ่อทรัพย์ น้ำได้หลากเข้าท่วมหลายจุด
แต่ทั้งนี้ฝนได้หยุดตก ทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับไม่มีน้ำทะเลหนุน ทำให้การระบายน้ำไม่มีอุปสรรค คาดว่าในช่วงเย็นถึงค่ำของวันนี้ พื้นที่น้ำท่วมขังบางส่วนของ 10 อำเภอ ประกอบด้วย ขนอม สิชล ท่าศาลา เมืองนครศรีธรรมราช ปากพนัง พระพรหม เชียรใหญ่ ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียติ และหัวไทร สถานการณ์จะคลี่คลาย หากไม่มีฝนตกหนักเพิ่มอีกจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ ส่วนความเสียหายในขณะนี้อยู่ในระหว่างสำรวจ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรกรรม ปศุสัตว์ และประมงในเขต อ.สิชล ที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง