ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จับมือโรงแรม The Sis Kata ยกระดับภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ผ่านโครงการ Prestige Wellness เพื่อการพักผ่อนและดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร
โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ร่วมกับโรงแรม The Sis Kata จัดแถลงข่าวความร่วมมือโครงการ Prestige Wellness อีกหนึ่งยุทธศาสตร์ที่จะยกระดับจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์นรินทร์ บุญจงเจริญ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม 6 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงแรม The Sis kata ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วม ณ ห้องประชุม Aurora โรงแรม The Sis Kata เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2565 ที่ผ่านมา
น.ส.กนกกร ภัทรวรณี Deputy Managing Director, AKSARA Collection กล่าวถึงที่มาในการเข้าร่วมโครงการ Prestige Wellness ว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป และทำให้เกิดการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์รายบุคคลมากขึ้น ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป แต่ธุรกิจเองก็มีการปรับตัวเช่นกัน โดยทางโรงแรมมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เน้นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ รวมถึงคำนึงใส่ใจในสุขภาพและอนามัยของผู้เข้ารับบริการมากขึ้น ซึ่งนับเป็นโอกาสของธุรกิจเราที่จะสร้างการบริการใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว
ในวันนี้โรงแรมมีความต้องการที่จะยกระดับประสบการณ์การเข้าพักให้ได้รับการบริการอย่างครบองค์รวม และเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้รับการดูแลด้านสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตเป็นโรงพยาบาลที่สามารถให้การดูแลรักษาได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ไปจนถึงการรักษาโรคที่ซับซ้อน ตลอดจนการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินได้ นับเป็นโอกาสอันดีที่สองธุรกิจจะร่วมมือกันเพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้ผู้เข้ารับบริการได้มีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
นายแพทย์นรินทร์ บุญจงเจริญ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม 6 บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเทรนด์สุขภาพในปัจจุบันว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เรื่องสุขภาพกลายเป็นตัวกระตุ้นให้คนหันมาดูแลและใส่ใจตนเองมากขึ้น หลายธุรกิจหันมาทำธุรกิจด้านสุขภาพมากขึ้น ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจด้านสุขภาพทั่วโลกมีอัตราการเติบโตขึ้นมากเป็น 2 เท่าของค่าเฉลี่ย GDP ทุกปี โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Wellness Tourism
โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ในฐานะผู้ให้บริการด้านสุขภาพ และเชี่ยวชาญในการทำตลาดด้าน Wellness Tourism จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะพัฒนาบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยใช้จุดแข็งด้านการแพทย์ สาธารณสุข และการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต มาร่วมออกแบบบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว ให้ได้ใช้เวลาเพื่อการพักผ่อนและดูแลสุขภาพได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เวชศาสตร์ชะลอวัย ไปจนถึงการดูแลสุขภาพการนอนขณะเข้าพักในโรงแรม โดยเน้นให้ความสำคัญกับคุณภาพการให้บริการ เพื่อสร้างมาตรฐานและประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภายใต้การดูแลโดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมงานมืออาชีพ
ด้านแพทย์หญิงเขมวรรณ เวทยไวกูณฐ์ แพทย์ที่ปรึกษาโครงการ Prestige Wellness และผู้อำนวยการศูนย์จักษุ กล่าวถึงที่มาของโครงการ Prestige Wellness ว่า เป็นความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด และโรงแรมพันธมิตรชั้นนำในจังหวัดภูเก็ต ผสานเอาความเชี่ยวชาญของแต่ละธุรกิจมาออกแบบเป็นโปรแกรมการดูแลสุขภาพของผู้รับบริการเฉพาะบุคคล เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากยุทธศาสตร์ Phuket Health Sandbox ของจังหวัดภูเก็ต และยุทธศาสตร์ Medical & Wellness Destination ของประเทศไทย
ซึ่งเราได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากร คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง องค์ความรู้ เครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนพัฒนายกระดับการให้บริการต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับการดูแลสุขภาพแบบ New Normal และพฤติกรรมของผู้รับบริการที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับบริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ที่จะช่วยออกแบบการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน แก้ปัญหาฉุกเฉินด้านสุขภาพ ตลอดจนใช้ในการติดตามสถานะสุขภาพแบบเรียลไทม์ ให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศการดูแลผู้ป่วยเฉพาะบุคคล (Internet of Medical Thing, IoMT)
แพทย์หญิงเขมวรรณ เวทยไวกูณฐ์ ยังกล่าวต่อไปว่า ไม่เพียงแต่จะดูแลเรื่องสถานะสุขภาพ อุบัติเหตุฉุกเฉิน หรือรักษาโรคที่ซับซ้อนเท่านั้น แต่เรายังพร้อมที่จะยกระดับเป็นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันลงลึกสู่ระดับเซลล์ และฮอร์โมน อีกทั้งยังเสริมความเยาว์วัย เพื่อสร้างมาตรฐานและประสบการณ์ทางการแพทย์ที่นำไปสู่ความสุขทั้งภายในและภายนอกด้วยเวชศาสตร์ชะลอวัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่สามารถวางแผนการดูแลร่างกายให้คุณโดยเฉพาะ
แพทย์หญิงกัญญา เต็มเกียรติวิเศษ อายุรศาสตร์ระบบประสาทและสมอง และผู้เชี่ยวชาญด้านการนอน กล่าวถึงความสำคัญของการตรวจสุขภาพการนอนว่า ปัญหาสุขภาพและโรคต่างๆ ส่วนหนึ่งมาจากการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ หรือนอนไม่มีคุณภาพ เช่น นอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ นอนหลับไม่ลึก นอนเยอะแต่ยังรู้สึกง่วง ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น รู้สึกเพลีย อาการเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาวหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ทางโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตได้เห็นความสำคัญเรื่องการนอนหลับ ดังนั้น เพื่อให้ผู้ที่กำลังประสบปัญหาหรือมีอาการเหล่านี้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ควบคู่ไปกับการปรับสุขลักษณะของการนอน และรูปแบบการใช้ชีวิต เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
โรงพยาบาลจึงได้มีโปรแกรมสำหรับการตรวจสุขภาพการนอนขึ้น โดยปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีการตรวจการนอนหลับแบบใหม่ คือนาฬิกาตรวจภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (WatchPAT) ทำได้เอง ผลแม่นยำ และสะดวก เพียงแค่สวมใส่ที่ข้อมือ ใส่ปลอกนิ้ว และมีสายต่อไปที่หน้าอก การตรวจนี้นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกรูปแบบใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจสุขภาพการนอนด้วยตนเองแม้จะพักในโรงแรมก็สามารถตรวจได้ ไม่ยุ่งยาก อีกทั้งมีความแม่นยำสูง ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอน
ขณะที่ Matthew C Hindmarch - Director of Hotel & Resorts - AKSARA Collection กล่าวว่า นับเป็นมิติใหม่และก้าวสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างองค์กรเอกชนที่จะร่วมดูแลกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และทางโรงแรมไว้วางใจในศักยภาพของโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาในระดับสากล ร่วมกับความพร้อมของโรงแรม โดยเป็นการให้บริการการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ภายใต้การดูแลของคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวได้ฟื้นฟูและดูแลร่างกายให้มีประสิทธิภาพขึ้นตลอดการมาพักโรงแรม โดยกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของโครงการ Prestige Wellness คือ ประเทศออสเตเรีย และประเทศแถบตะวันออกกลาง ที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ต ซึ่งโรงแรมได้ออกแบบแพกเพจที่ครอบคลุมและเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพไว้ทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน ประกอบด้วย
โปรแกรมห้องพักร่วมกับการเติมวิตามินเข้าสู่ร่างกายลงลึกระดับเซลล์ ในราคาเริ่มต้น 22,999 บาท สำหรับการเข้าพัก 3 คืน โปรแกรมห้องพักร่วมกับการตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน โดยมีการออกแบบการตรวจให้เหมาะสมกับช่วงวัย และโรคประจำตัว รวมไปจนถึงเวชศาสตร์ชะลอวัยที่เหมาะกับผู้เข้ารับบริการ โปรแกรมห้องพักร่วมกับการตรวจสุขภาพการนอนด้วยนาฬิกาตรวจภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (WatchPAT) หนึ่งทางเลือกรูปแบบใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจสุขภาพการนอนด้วยตนเอง ผลแม่นยำ สะดวก ภายใต้การดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการนอน