กระบี่ - เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัย อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ดำน้ำสำรวจปะการัง "เกาะยูง" พบเจริญเติบโตดี ปกคลุมพื้นที่กว่า 80% หลังปิดเกาะนาน 4 ปี ไม่พบการฟอกขาว มีสัตว์น้ำนานาชนิดหากิน และยังปิดต่อเพื่อให้สภาพแวดล้อมกลับสู่สภาพเดิมมากที่สุด
นายฑีฆาวุฒิ ศรีบุรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ลงพื้นที่ดำน้ำสำรวจและติดตามสถานภาพปะการัง ในจุดถ่ายภาพถาวร บริเวณเกาะยูง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ที่ระดับน้ำความลึก 3-5 เมตร จากการเปรียบเทียบในแต่ละปี ตั้งแต่ปี 2562-2565 แสดงให้เห็นว่า ปะการังมีการเจริญเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ปกคลุมร้อยละ 80 ของพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นปะการังในกลุ่มของปะการังเขากวางแบบพุ่ม ปะการังโขด
นอกจากนี้ ยังมีปะการังโคโลนีชุดเก่า ที่เจริญเติบโตเพิ่มขึ้น ไม่พบปะการังมีการฟอกขาว รวมทั้งมีสัตว์ทะเลนานาชนิดอาศัยหากินบริเวณแนวปะการังเป็นจำนวนมาก เช่น ปลาสลิดหินลายบั้ง หอยมือเสือ และเม่นหนามยาว เป็นตัวบ่งชี้ว่าระบบนิเวศเริ่มฟื้นตัวจนใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ พบมีเศษอวนถูกพัดมาปกคลุมแนวปะการังบางส่วน จึงได้ทำการเก็บกู้ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ สาเหตุที่แนวปะการังบริเวณเกาะยูงมีสภาพเจริญเติบโตได้ดีขึ้น สืบเนื่องมาจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศปิดเพื่อต้องการฟื้นฟูแนวปะการังมาตั้งแต่ปี 2558 เป็นระยะเวลากว่า 5 ปี เพื่อฟื้นฟูแนวปะการังที่ได้รับความเสียหายจากกิจกรรมการท่องเที่ยวมาเป็นเวลานาน
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาแนวปะการังบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างจากภาวะน้ำทะเลร้อนขึ้น ส่งผลให้แนวปะการังมีการฟอกขาว รวมถึงการเข้าไปทำกิจกรรมของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากมาเป็นระยะเวลานาน กรมอุทยานฯ เห็นว่าหากไม่ปิดเพื่อฟื้นฟูอาจจะส่งผลเสียหายจนยากจะฟื้นตัวได้ จึงประกาศปิดเกาะยูงตามมาตรการฟื้นทะเลกระบี่ให้กลับคืนมา
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้นำเอากิ่งพันธุ์ปะการังบริเวณเกาะยูงไปใช้ในการปลูกฟื้นฟูในอ่าวมาหยาด้วย โดยหลังจากนี้จะยังคงปิดเกาะยูงต่อไป เพื่อให้สภาพแวดล้อมกลับสู่สภาพเดิมมากที่สุด