ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - การท่องเที่ยวมาเลเซียบุก ‘หาดใหญ่’ เชิญชวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวร่วมรับฟังแนวทางการเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวของด่านทางบกมาเลเซีย-ไทย เริ่ม 1 เม.ย.นี้ พร้อมยืนยันการเดินทางเข้ามาเลเซียไม่ได้ยุ่งยาก
วานนี้ (29 มี.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทารา หาดใหญ่ จ.สงขลา การท่องเที่ยวมาเลเซีย จัดงาน "Tourism Malaysia Hybrid Seminar" เพื่อร่วมรับฟังมาตรการเกี่ยวกับการเดินทาง วิธีปฏิบัติอย่างถูกต้อง พร้อมก้าวเข้าสู่การเปิดพรมแดนมาเลเซีย โดยมี นายมูฮัมหมัด ริดชวน บิน อบู ยาชิด กงสุลใหญ่มาเลเซียจังหวัดสงขลา และนางมาซวิน ไซนอล อบิดิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวมาเลเซีย ประจำประเทศไทย ร่วมเปิดงาน และพบปะให้ข้อมูลแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่หาดใหญ่ และใกล้เคียง
อย่างที่ทราบกันว่า "ประเทศมาเลเซีย" จะเข้าสู่ระยะการเปลี่ยนของโรคโควิด-19 ผ่านสู่โรคท้องถิ่น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมที่จะเปิดพรมแดนอีกครั้ง โดยเริ่มต้นที่การเดินทางทางอากาศผ่านสายการบินต่างๆ ที่ดำเนินการมาก่อนแล้ว และต่อด้วยการเปิดด่านพรมแดนทางบก ระหว่างประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย
โดยในวันที่ 1 เมษายน 2565 จะเริ่มเปิดพรมแดนที่เชื่อมกับด่านสะเดา จ.สงขลา และด่านวังประจัน จ.สตูล ซึ่งรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศได้มีความเห็นชอบร่วมกันแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ได้เตรียมมาตรการสำหรับนักเดินทาง เพื่อให้มาเลเซียเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงความแออัดในการเดินทางเข้าประเทศ มาตรการการเดินทางเข้าประเทศ ดังนี้
นักเดินทางทั่วไป (ก่อนออกเดินทาง)
- ผู้เดินทางจะต้องดาวน์โหลด ลงทะเบียนแอปพลิเคชัน MySejahtera
- ผู้เดินทางต้องกรอกใบข้อมูลการเดินทาง ซึ่งรวมถึงข้อมูลการฉีดวัคซีน ผ่านหัวข้อผู้เดินทาง ใน MySejahtera
- รายงานและอัปโหลดผลการทดสอบ RT-PCR ที่เสร็จสิ้น 2 วันก่อนออกเดินทาง
- สำหรับผู้เดินทางที่ติดเชื้อภายใน 6-60 วัน ต้องรายงานและอัปโหลดผลของ Professional Antigen RTK ที่ดำเนินการไปแล้ว 2 วันก่อนออกเดินทาง
นักเดินทางที่เป็นชาวต่างชาติจะต้อง
- มีประกันคุ้มครอง (โควิด-19 และการเดินทาง)
- ระบุที่อยู่ของที่พักในมาเลเซียให้ชัดเจน
เมื่อส่งข้อมูลข้างต้นแล้ว นักเดินทางจะได้รับข้อมูลต่อไปนี้ในแอปพลิเคชัน MySejahtera
- บัตรเดินทางสำหรับผู้เดินทางที่มีวัคซีนครบชุด
- คำสั่งเฝ้าระวังการกักตัวที่บ้าน 5 วัน สำหรับผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนครบ หรือไม่ได้รับวัคซีน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดที่ให้มานั้นถูกต้อง การให้ข้อมูลอันเป็นเท็จถือเป็นความผิด ตามมาตรา 22 (ง) ของพระราชบัญญัติป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ พ.ศ.2531 [พระราชบัญญัติ 342] และในการพิจารณาพิพากษาว่ามีความผิด มีโทษตามมาตรา 24 ของพระราชบัญญัติ 342 ไม่ว่าจะถูกปรับหรือจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อมาถึงเกตเวยร์ะหว่างประเทศ (PMA)
- ผู้เดินทางจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองไข้ด้วยเครื่องสแกนความร้อน หากมีอาการให้ตรวจเพิ่มเติม จะถูกส่งตัวต่อเพื่อตรวจเพิ่มเติมที่เคาน์เตอร์สุขภาพของ PMA
- ผู้เดินทางที่ไม่มีอาการจะดำเนินการต่อที่เคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง
หลังจากเข้าประเทศมาเลเซียภายใน 24 ชั่วโมง
- ผู้เดินทางจะต้องผ่านการทดสอบ RTK-Ag ทั้งที่สถานพยาบาลเอกชนใน PMA หรือนอก PMA ภายใน 24 ชั่วโมง
- ผลการทดสอบ RTK-Ag จะได้รับในแอปพลิเคชัน MySejahtera
หากผลตรวจ RTK-Ag เป็นบวก
- ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบจะต้องกักตัว 7 วัน ณ ที่พัก และรักษาอาการในโรงพยาบาล
- สำหรับผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนครบ หรือไม่ได้รับวัคซีนจะต้องกักตัวเป็นเวลา 10 วัน
หากผลการตรวจ RTK-Ag เป็นลบ
- ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบไม่ต้องกักตัว
สำหรับผู้เดินทางที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ หรือไม่ได้รับวัคซีนจะต้องกักตัวเป็น เวลา 5 วัน ณ ที่พัก และต้องตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4 หรือตรวจ RTK-Ag ในวันที่ 5 หากผลตรวจครั้งที่ 2 เป็นบวกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 5 วัน นับจากวันตรวจครั้งที่ 2 แต่หากผลตรวจเป็นลบ นักเดินทางสามารถออกจากการกักตัวได้
ข้อยกเว้นจากการทดสอบตรวจหาเชื้อโควิด-19
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี (ตามปีเกิด) ไม่จำเป็นต้องผ่านการทดสอบก่อนออกเดินทาง และการทดสอบเมื่อเดินทางมาถึง
วัคซีนที่เป็นที่ยอมรับของมาเลเซีย
- กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ยอมรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบโดส ตามเกณฑ์ที่ไดรับอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก นอกจากนี้ มาเลเซียยังจะได้รับวัคซีนที่ได้รับอนุมัติให้ใช้โดยหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศอื่นๆ รวมถึงวัคซีนที่ไม่อยู่ในรายชื่อการใช้ในกรณีฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก โดยจะมีการอัปเดตเป็นครั้งคราว
หากดูตามเงื่อนไขการเดินทาง หลายคนอาจคิดว่ายุ่งยาก แต่ความจริงแล้วไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะการเดินทางกับบริษัทนำเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่ได้มีการจัดเตรียมข้อมูล ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว สำหรับระยะเริ่มต้น การเดินทางเข้าสู่มาเลเซียยังไม่มีการใช้รถบัส หรือรถประจำทางระหว่างประเทศ อนุญาตให้เข้าได้เฉพาะรถส่วนบุคคล หรือรถตู้แบบเช่าเหมาคันเท่านั้น
ส่วนของความพร้อมด้านสถานที่ท่องเที่ยว ในช่วงปิดประเทศทางมาเลเซียได้มีการปรับปรุงสถานที่ต่างๆ ให้มีความสวยงาม ทันสมัย ไว้รอรับผู้มาเยือนทุกคนให้มีความประทับใจมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก อย่าง เก็นติ้งไฮแลนด์ สวนสนุกเลโก้แลนด์ (Legoland) การท่องเที่ยวสลังงอร์ รัฐที่อยู่รอบเมืองหลวง และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และเดอะรูมา โฮเทลแอนด์เรสซิเดนเซส มาร่วมให้ข้อมูลการท่องเที่ยว และมอบโปรโมชันพิเศษต้อนรับชาวไทยด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจเดินทางสู่ประเทศมาเลเซีย สามารถสอบถามข้อมูลจากผู้ประกอบการนำเที่ยวในพื้นที่ หรือที่การท่องเที่ยวมาเลเซีย ประจำประเทศไทย โทร.0-2636-3381 หรือทางแฟนเพจการท่องเที่ยวมาเลเซีย www.facebook.com/malaysia.travel.th/