ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โซเชียลวิจารณ์ยับโรงเรียนออกประกาศให้ครูพ้นสภาพเหมือนทำผิดร้ายแรง หลังจากที่ไปสอบบรรจุครูได้อันดับ 1 ของ จ.สงขลา และขัดกับประกาศของโรงเรียนที่จะต้องลาออกก่อนที่จะไปสอบ ล่าสุด แต่งตั้งทนายเข้าเจรจา และจะดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่ถอนประกาศออกเพื่อความเป็นธรรม
หลังจากได้มีเรื่องราวที่กลายเป็นกระแสวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในสังคมโซเชียล คือเรื่องที่ทางโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (โรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์) ได้ออกประกาศแจ้งบุคคลพ้นสภาพการเป็นบุคลากร โดยให้ น.ส.อริสรา มุสิกรักษ์ ครูแนะแนว ได้พันสภาพจากการเป็นบุคลากรของโรงเรียน ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2565 การใดที่ น.ส.อริสรา ได้กระทำลงในนามส่วนตัว หรือกล่าวอ้างถึงโรงเรียนภายหลังพ้นสภาพการเป็นบุคลากรจักไม่มีผลผูกพันกับโรงเรียน ประกาศ ณ วันที่ 25 มีนาคม 2565
จากประกาศดังกล่าวทำให้คนที่อ่านคิดว่า น.ส.อริสรา ทำผิดร้ายแรงจนทำให้เกิดความเสียหายกับทางโรงเรียน เช่น ยักยอกทรัพย์ หรืออ้างชื่อไปแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งภายหลัง น.ส.อริสรา ได้โพสต์ชี้แจงถึงเรื่องนี้ สรุปความคือ เป็นผลมาจากเธอไปสอบบรรจุข้าราชการครูได้อันดับ 1 ของ จ.สงขลา แต่ไปขัดกับประกาศของโรงเรียนที่บุคคลที่จะไปสอบข้าราชการ พนักงานข้าราชการ พนักงานเอกชน หากต้องไปสอบต้องลาออกก่อน โรงเรียนทราบเรื่องจึงเรียกให้ไปพบ และเซ็นรับทราบในเอกสารประกาศผิดวินัยร้ายแรง เพราะทำผิดประกาศโรงเรียน
โดยเรื่องนี้ น.ส.อริสรา หรือครูหญิง มองว่าเธอเสียหายจากการที่โรงเรียนได้ประกาศให้พ้นสภาพ เพราะทำให้สังคมเข้าใจผิด พร้อมกับได้หารือกับทนายความเพื่อเจรจาหาข้อยุติกับทางโรงเรียนให้ลบประกาศออก และปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพงศธร สุวรรณรักษา หรือทนายพี่อาร์ม ซึ่งเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนที่รับมอบจากครูหญิง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้จะเข้าพบกับทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) และเดินทางไปพบกับผู้บริหารโรงเรียนแห่งนี้เพื่อที่จะพูดคุยหาทางออกร่วมกัน โดยเฉพาะการถอดประกาศนี้ออก ซึ่งเรื่องนี้ยอมความกันได้ แต่ถ้าหากทางโรงเรียนยังยืนกรานในประกาศนี้ต่อไป ก็คงจะดำเนินการในเรื่องของการฟ้องร้องกันทางกฎหมาย
ซึ่งปัญหาของเรื่องนี้เป็นผลมาจากประกาศของโรงเรียน ซึ่งครูหญิงมีสัญญากับโรงเรียนเมื่อปี 2562 เป็นเวลา 3 ปี และจะหมดลงในเดือนเมษายนนี้ กล่าวคือ ประกาศของโรงเรียนออกมาว่าบุคคลที่จะไปสอบข้าราชการ พนักงานข้าราชการ หรือพนักงานเอกชน หากต้องการไปสอบจะต้องลาออกก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อ หากไม่ลาออกเป็นเหตุให้โรงเรียนสามารถเลิกจ้างได้ ซึ่งมองว่าประกาศนี้ไม่ยุติธรรม เป็นการบังคับไม่ให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนเอกชนหลายแห่ง
โดยเรื่องนี้หากมองในแง่ดีจะสะท้อนให้เห็นว่า การที่ครูไปสอบบรรจุได้อันดับ 1 โรงเรียนมีบุคลากรที่ดี มีครูที่ดีสอนอยู่ในโรงเรียนนี้ ซึ่งเรื่องนี้ตนจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการต้นสังกัดโรงเรียนเอกชนด้วย เพื่อให้มีการแก้ไขระเบียบ เพราะเป็นเหมือนกับสัญญาทาส และกรณีของครูหญิง เป็นเคสแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น