ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ย้อนร้อยเหตุการณ์ยิงปะทะที่สี่แยกเขาชัยสน จ.พัทลุง หนึ่งในดาบตำรวจที่ถูกยิงบาดเจ็บเผยถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ชายโครงขวา 1 นัด แต่กระสุนแตกยิงไม่เข้ารอดตายปาฏิหาริย์ โชว์พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง ที่อาราธนาขึ้นคอทุกครั้งที่ออกปฏิบัติหน้าที่
วันนี้ (27 มี.ค.) จากเหตุการณ์ตำรวจกองปราบยิงปะทะกับกลุ่มคนร้ายแก๊ง นายจำรัส รักษ์จันทร์ หรือฉุย เขาจันทร์ บริเวณสี่แยกท่านางพรหม หมู่ 6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง และถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 คน และตำรวจกองปราบเสียชีวิต 1 นาย คือ ด.ต.อนันต์ มีแสง ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม และบาดเจ็บอีก 2 นาย และล่าสุด ตำรวจสามารถติดตามจับกุม นายจำรัส หรือฉุย เขาจันทร์ ได้ยกแก๊งแล้วรวม 4 คน
ย้อนรอยเหตุการณ์นี้จากหนึ่งในตำรวจกองปราบที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บคือ ด.ต.ชัชชัย พันธอู อายุ 45 ปี ผู้บังคับหมู่กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ซึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ชายโครงขวาแบบเต็มๆ 1 นัด และรอดตายราวปฏิหาริย์เพราะกระสุนยิงไม่เข้า มีเพียงแผลรอยกระสุนซึ่งโดนเข้าที่ชายโครงขวา 1 นัด และเศษกระสุนที่แตกไปโดนแขน และลำตัวอีก 3 จุด
ด.ต.ชัยชัย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันนั้นได้ลงพื้นที่หาข่าวติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นายจำรัส รักษ์จันทร์ หรือฉุย เขาจันทร์ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง แต่ปรากฏว่าคนร้ายรู้ตัวและได้ขับรถตามประกบรถที่ตนขับ ซึ่งเป็นรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ประกบหน้า 1 คัน ข้างขวา 1 คัน และข้างหลังอีก 2 คัน และคนร้ายที่ขับประกบข้างขวาได้ลดกระจกใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ทันทีบนถนนสายนาโหนด-เขาชัยสน ซึ่งเป็นจุดแรกที่ยิงปะทะกับคนร้าย
ตอนที่คนร้ายยิงใส่รู้ตัวเลยว่าโดนยิงแล้วแต่ไม่ได้บอกเพื่อนตำรวจที่นั่งอยู่ในรถคันเดียวกัน 5 คน เพราะกลัวเพื่อนจะเสียขวัญ จากนั้นจึงจอดรถ และยิงปะทะกันขึ้น คนร้ายจึงขับรถหนีและไปยิงปะทะกับชุดของ ด.ต.อนันต์ บริเวณสี่แยกท่านางพรหม ทำให้ ด.ต.อนันต์ ถูกยิงเสียชีวิต และคนร้ายถูกวิสามัญตายคาที่ 1 คน
ตอนที่ยิงปะทะกันทั้ง 2 จุด แม้จะรู้ตัวว่าโดนยิงแล้วแต่ยังยิงต่อสู้จนเหตุการณ์ยุติลง เพื่อนเห็นเลือดออกที่ลำตัวและรู้ว่าตนถูกยิงด้วย จึงไปทำแผลที่โรงพยาบาล แพทย์บอกว่ามีรอยกระสุนที่ชายโครงขวา 1 นัด ส่วนแผลอื่นๆ เป็นรอยเศษกระสุนที่แตกเท่านั้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานระบุว่า กระสุนที่ยิงใส่ตนเป็นขนาด 5.56 ที่ใช้กับปืนเอ็ม 16
ด.ต.ชัชชัย บอกอีกว่า จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ตนรอดชีวิตในวันนั้นแม้จะถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 เต็มๆ 1 นัด แต่กระสุนแตกไม่เข้า แต่ในวันนั้นได้สวมใส่พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง ทรงพลใหญ่ ที่พระครูปุณณธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา คล้องคอให้กับมือท่านเอง และทุกครั้งที่ออกปฏิบัติหน้าที่จะอาราธนาพระขุนแผนขึ้นคอทุกครั้ง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าให้ปลอดภัย
ในช่วงวินาทีของการปะทะตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรนึกถึงปืน นึกถึงเพื่อนให้ทุกคนปลอดภัย และนึกถึงพระและพ่อแม่เพราะมันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสติ และไม่ประมาทพร้อมตอบโต้ทุกสถานการณ์ เพราะทุกครั้งที่เราลงปฏิบัติหน้าที่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จะต้องมีสติตลอด ถ้ากลัวเกินไปก็ไม่รอด ถ้ากล้าเกินไปไม่รอดเหมือนกัน
“เหตุการณ์ในวันนั้นยังคงนึกถึง ด.ต.อนันต์ เพื่อนร่วมทีมที่เสียชีวิตเสมอ และสุดท้ายสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด และเป็นบทเรียนสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนพระขุนแผนอาราธนาขึ้นคอทุกครั้งที่ปฏิบัติหน้าที่ จะด้วยปาฎิหาริย์หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่างน้อยเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือสติและเพื่อนร่วมงานที่ดี” ด.ต.ชัชชัย กล่าว
