xs
xsm
sm
md
lg

โจรสาวบุกเดี่ยวชิงทองฉกสร้อยข้อมือได้ 1 บาท แวะขายที่ห้างดัง ตำรวจแกะรอยตามรวบได้ทันที อ้างขาดเงินหมุนเวียนร้านขายเสื้อผ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุราษฎร์ธานี - เกิดเหตุโจรสาวบุกเดี่ยว เข้าไปทำทีซื้อทองที่ร้านทองบนเกาะสมุย ก่อนฉกสร้อยข้อมือ 1 บาท วิ่งหนีออกจากร้านคว้าจักรยานยนต์หลบหนี แวะห้างดังขายทองก่อนกลับไปที่ร้านขายเสื้อผ้า ตำรวจแกะรอยกล้องวงจรปิดตามรวบตัวได้ทันควัน อ้างทำไปเพราะขาดเงินหมุนเวียนในร้านขายเสื้อผ้า

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มี.ค.65 ศูนย์วิทยุ 191 สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นหญิงสาวบุกเดี่ยวเข้าไปชิงสร้อยข้อมือทองคำ ภายในห้างทองฉัตรทิพย์ ตั้งอยู่เลขที่ 76/14 ริมถนนสายรอบเกาะสมุย หมู่ 3 ตำบลมะเร็ต จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด พร้อมกำลังตำรวจสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนายกฤษณะ วานิชชานนท์ เจ้าของร้านยืนตกใจกับเหตุการณ์ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.20 น. ก่อนที่ร้านจะปิด ได้มีคนร้ายเป็นหญิงสาว ผมยาว สวมกางเกงขายาวสีขาว สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีขาว แถบเขียว สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว และมีหน้ากากอนามัยสีดำปิดจมูกและปาก ขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงมาจอดหน้าร้าน เข้ามาทำทีขอเลือกดูสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 1 บาท เมื่อทางเจ้าของร้านส่งสร้อยน้ำหนัก 1 บาทให้ดู หญิงสาวที่เป็นลูกค้าได้คว้าสร้อยวิ่งออกไปนอกร้าน พร้อมสตาร์ทรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางหาดเฉวง ซึ่งหลังก่อเหตุตนพร้อมกับลูกสาวได้วิ่งติดตามแต่ไม่ทัน เจ้าของร้านกล่าว พร้อมมอบภาพวงจรปิดให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้าน พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สั่งกำชับกำลังตำรวจใช้แผนเผชิญเหตุติดตามคนร้าย โดยพบว่าคนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีแดงดำ ทะเบียน คตท 456 สุราษฎร์ธานี ในการก่อเหตุ


ต่อมาเวลา 20.30 น.วันเดียวกัน ตำรวจสืบสวนที่ได้เเกะรอยคนร้ายทุกเส้นทาง และพบว่าคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทางหาดเฉวง และต่อมาพบว่าคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย และขับรถไปทางสายวัดสว่างอารมณ์ และกล้องวงจรปิดที่บันทึกเส้นทางคนร้ายได้ไปหมดที่ร้านเอส แอนด์ เอฟ แฟชั่น ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบ

และพบหญิงสาวรายหนึ่งอยู่ในร้าน ลักษณะตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทอง จึงได้ทำการสอบถาม และพบพิรุธจากหญิงสาว และทางเจ้าหน้าที่จึงได้คาดคั้น ในที่สุดทราบชื่อคือ น.ส.ศิริพร สมสอง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 716 หมู่ 9 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี และจับได้ภายในร้านจำหน่ายเสื้อผ้า “ร้านเอสแอนด์เอฟแฟชั่น” ตั้งอยู่เลขที่ 124/29 ริมถนนสายวัดสว่างอารมณ์ หมู่ 6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ซึ่งพบว่า น.ส.ศิริพร ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงขาสั้น สวมเสื้อยืดสีแดง ตรวจสอบภายร้านพบเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุไว้ได้ทั้งหมด พร้อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีแดงดำ ทะเบียน คตท 456 สุราษฎร์ธานี จอดอยู่หน้าร้าน และหมวกกันน็อกสีแดง พร้อมตรวจค้นในตัวพบเงินสด จำนวน 28,740 บาท จึงได้ยึดของกลางไว้ทั้งหมดเพื่อเป็นหลักฐาน พร้อมได้ทำการควบคุมตัวไปทำการสอบปากคำที่ สภ.บ่อผุด

เบื้องต้น จากการสอบปากคำ น.ส.ศิริพร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นแม่ค้าจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น และหมดเงินลงทุน หมุนเงินไม่ทัน จึงคิดไม่ตก จึงได้นำเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนสวมใส่หลังก่อเหตุ พร้อมวางแผนในการหลบหนี และหลังก่อเหตุได้นำสร้อยข้อมือทองคำไปขายที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาเซ็นทรัล สมุย โดยได้เงินจำนวน 28,740 บาท จริง


ด้าน น.ส.ศิริพร ผู้ต้องหาหลังถูกจับกุม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เตรียมการเอาไว้ เนื่องจากหมุนเงินไม่ทันจริงๆ และลงมือทำคนเดียว หลังก่อเหตุนำทองไปจำหน่ายในห้างทองแห่งหนึ่งภายในศูนย์การค้า ได้เงินมาจำนวน 28,740 บาท จากนั้นนำเงินที่ได้จากขายสร้อยข้อมือทองคำ ไปไถ่โทรศัพท์มือถือที่จำนำไว้จำนวนหนึ่ง โดยหลังจากก่อเหตุ และถูกจับกุมพร้อมสำนึกผิด หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด พร้อมอยากขอโทษทางเจ้าของร้านทอง ที่ทำลงไปเพราะขัดสนเรื่องเงินจริงๆ

ขณะเดียวกัน ได้มี นายกฤษณะ วานิชชานนท์ เจ้าของห้างทองฉัตรทิพย์ หลังทราบข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่จับกุมคนร้านที่ก่อเหตุชิงทองได้เเล้ว ได้เดินทางมาดูโฉมหน้าคนร้าย พร้อมซักถามผู้ต้องหาว่าก่อเหตุทำไม ทำให้ น.ส.ศิริพร ยกมือไหว้ขอโทษ และก้มลงกราบ เจ้าของห้างทอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เเจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ศิริพร สมสอง ในข้อกล่าวหา “วิ่งราวทรัพย์ของผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นจากการถูกจับกุม หรือรับของโจร” พร้อมส่งดำเนินคดีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น