ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) จับมือศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 พัฒนานวัตกรรม เพื่อยกระดับการสืบสวนสอบสวน
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 คณะวิจัย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) นำโดย รศ.ดร.วรากร ลิ่มบุตร พร้อมด้วย ผศ.ดร.อภิชัย พลชัย และทีมวิจัยจากศูนย์นวัตกรรมและบริการนิติวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ร่วมกับศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 พัฒนานวัตกรรมเพื่อใช้ในงานสืบสวนสอบสวน โดยทางคณะวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ความรู้พร้อมปฏิบัติเรื่องการเตรียมพอลิเมอร์อิเล็กโทรไลต์แบบเจล และการใช้อุปกรณ์เก็บกู้เลขหมายให้แก่บุคลากรจากหน่วยงานพิสูจน์หลักฐาน 9 ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันทั้ง 2 ฝ่าย และส่งมอบพอลิเมอร์อิเล็กโทรไลต์แบบเจลชนิดต่างๆ และอุปกรณ์เก็บกู้เลขหมาย จำนวน 3 เครื่อง โดยมีผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 พล.ต.ต.สิทธิภูมิ เธียนชัยวัฒนา เป็นผู้แทนรับมอบ
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 คณะวิจัยได้ลงพื้นที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ในการถ่ายทอดองค์ความรู้พร้อมปฏิบัติเรื่องการเตรียมพอลิเมอร์อิเล็กโทรไลต์แบบเจล และการใช้อุปกรณ์เก็บกู้เลขหมายให้แก่บุคลากรจากหน่วยงานพิสูจน์หลักฐาน 8 และบรรยายพิเศษเรื่องอุปกรณ์ตรวจวัดทางสีสำหรับตรวจพิสูจน์ยาทรามาดอลที่มีการนำมาใช้ในทางที่ผิดในตัวอย่างเครื่องดื่มต้องสงสัย และยาทรามาดอลปลอม อุปกรณ์ตรวจวัดในรูปแบบห้องปฏิบัติการบนกระดาษแบบพกพาสำหรับตรวจวัดสารเมทแอมเฟตามีน อุปกรณ์ตรวจวัดสารเสพติดกลุ่มเบนโชไดอะซีพีนชนิดพกพา ให้แก่บุคลากรจากหน่วยงานพิสูจน์หลักฐาน จำนวน 12 หน่วยงานในภาคใต้ พร้อมส่งมอบนวัตกรรม โดยมี พล.ต.ต.วิรุตติ์ เย็นสวัสดิ์ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และหัวหน้าพิสูจน์หลักฐานจังหวัด รับมอบ
รศ.ดร.วรากร ลิ่มบุตร กล่าวว่า คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. มีพันธกิจในการดำเนินงานด้านการวิจัยและบริการวิชาการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ทำให้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการดำเนินงานด้านกระบวนการยุติธรรม การที่ศูนย์นวัตกรรมและบริการนิติวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ได้ร่วมกับศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้นำปัญหาที่เกิดจากหน้างานมาพัฒนาองค์ความรู้ที่มีให้เกิดเป็นนวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง ความร่วมมือครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการร่วมกันพัฒนากระบวนการสืบสวนสอบสวน นอกเหนือจากการได้ผลงานที่ใช้งานได้จริงแล้ว ยังทำให้เกิดความใกล้ชิดระหว่างนักวิจัย นักวิชาการ และหน่วยงานภายนอกอีกด้วย