ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รมว.ยุติธรรม ลงประเดิม จ.สงขลา เดินสายขอบคุณชาวใต้ช่วยผลักดันปลดล็อก “กระท่อม” สำเร็จ เปลี่ยนใบไม้ผิดกฎหมายเป็นเงินแสนล้าน แนะต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ตีตลาดโลก พร้อมร่วมชมประมูลทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) สำนักงาน ป.ป.ส. จัดงาน “พืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน” ครั้งที่ 1 และการขายทอดตลาดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายวันชัย ปริญญาศิริ นายศาสตรา ศรีปาน นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนเข้าร่วมงาน
โดยในช่วงแรก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และคณะได้เยี่ยมชมการขายทอดตลาดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด โดยกองทุนป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด ป.ป.ส.ภาค 9 มีของประเภททองรูปพรรณ เครื่องประดับ วัตถุมงคล ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างรวม 146 รายการ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กิจกรรมตรงนี้เกิดขึ้นได้เพราะการปราบปรามยึดทรัพย์ยาเสพติด ในอดีตผู้ค้ามีความสุขมากเพราะเราจับแต่พวกนักบิน หรือคนขนยา แต่ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่นั้น เราเน้นการยึดทรัพย์โดยสืบสาวเส้นทางการเงินไปจนถึงผู้บงการ ของกลางที่เรายึดมานี้เรานำมาขายทอดตลาด เพื่อไปใช้ในกองทุนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด และเป็นรางวัลนำจับเครือข่ายยาเสพติด รัฐบาล และกระทรวงยุติธรรม ได้วางแนวนโยบาย เราทำงานอย่างบูรณาการ และอีก 2 ปี ตนมั่นใจว่าปัญหายาเสพติดจะลดน้อยถอยลงไปจนเราแทบมองไม่เห็น และไม่ต้องกังวลว่าข้าราชการจะรู้เห็นกับผู้ค้ายา เพราะเราตั้งรางวัลในการทำงานเอาไว้ และปีนี้เราจะยึดทรัพย์ให้ได้ 10,000 ล้านบาท ตนต้องขอบคุณหลายๆ คนที่ทำงานตามแนวนโยบายได้อย่างดี
จากนั้นเป็นกิจกรรม “พืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน” นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า ตนมาจัดในวันนี้เพื่อแสดงความขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนร่วมกันทำให้กฎหมายพืชกระท่อมผ่าน หากไม่มีพวกท่านพี่น้องชาวใต้ การปลดล็อกพืชกระท่อมคงไม่ประสบความสำเร็จเช่นนี้ จนเวลานี้สามารถนำมาซื้อขาย และนำมาใช้กินตามวิถีชาวบ้านได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากตนเป็น ส.ส.มาเป็นเวลานาน ได้ใกล้ชิดประชาชนเสมอ รู้ถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน จึงเริ่มเดินหน้า และได้ศึกษาเรื่องพืชกระท่อม และมองว่าเป็นประโยชน์ เมื่อศึกษาข้อกฎหมายมีความเป็นไปได้ จึงได้ปลดล็อกให้ใบกระท่อมใช้ได้ และตนต้องการเปลี่ยนใบไม้ที่ผิดกฎหมายมา 78 ปี ให้เป็นเงินมหาศาล
“ผมเชื่อว่ายังมีความต้องการใบกระท่อมสูงมากกว่าการผลิต ล่าสุดได้จับกุมผู้ลักลอบนำเข้าใบกระท่อมจากประเทศมาเลเซีย ลักลอบขนใบกระท่อมผ่านช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-มาเลเซีย น้ำหนัก 450 กิโลกรัม มูลค่านับแสนบาท ทำให้เห็นถึงความต้องการในไทยยังมีเป็นจำนวนมาก จากการสำรวจพื้นที่ปลูกกระท่อมในประเทศไทยมีไม่น้อยกว่า 40,000 ไร่ ที่สร้างมูลค่าได้ถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งราคาปัจจุบันยังไม่ตก ทำให้เห็นว่าช่วงที่ผ่านมาที่เราเห็นกระท่อมขายในสวน ริมทาง ในห้าง มีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก” นายสมศักดิ์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ด้านการส่งออกเรามีข้อได้เปรียบที่กระท่อมปลูกได้ดีในเขตร้อนชื้น โดยเฉพาะภาคใต้ และเรามีความใกล้ชิดกับพืชกระท่อมมานาน เกิดภูมิปัญญาที่สืบต่อกันมา สามารถต่อยอดสู่การพัฒนาเป็นสินค้าสมุนไพร อีกทั้งกระท่อมไทยมีชื่อเสียงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวอเมริกัน ด้านคุณภาพ ความเข้มข้นของสารไมตราไจนีน ถือเป็นสินค้าพรีเมียมในตลาด จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจทำตลาดสินค้าพืชกระท่อม โดยเฉพาะตลาดพืชกระท่อมในสหรัฐอเมริกา มีมูลค่า 1.13 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยอินโดนีเซียมีสัดส่วนในตลาดสูงเกือบร้อยละ 100 ในสหรัฐอเมริกา การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน คือเราต้องพัฒนาคุณภาพ มีมาตรฐานการผลิต และการบริโภคที่ปลอดภัยจะช่วยให้สินค้ากระท่อมไทยเป็นที่ยอมรับ
“กระท่อมทั่วทุกภาคเรียกร้องอยากจะปลูก เวลานี้การปลูกกระท่อมทุกคนอิจฉาชาวใต้หมด ได้ปลูกมาก่อน วันนี้ปลูกได้จริง ทำให้คนทั้งประเทศเรียกร้องให้ผมเข้าไปสนับสนุนให้มีการปลูกไปยังทั่วประเทศให้ได้ ผมเป็นห่วงว่าปลูกมาราคาจะตก ดังนั้น เราต้องต่อยอดงานวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาดโลก” นายสมศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับบรรยากาศในงานมีกลุ่มประชาชนมายื่นหนังสือขอให้มีเวทีสร้างความรู้เกี่ยวกับพืชกระท่อมให้ทุกชุมชน และเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อมให้สำเร็จ นอกจากนี้ ยังมีการจัดบูทแสดงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มาจากพืชกระท่อม เช่น ชาชงสมุนไพร ชากระท่อมพร้อมดื่ม น้ำมันกระท่อม ไอติมกระท่อม หมากฝรั่ง และคอนเสิร์ตจากวง “มาลีฮวนน่า” ด้วย