สุราษฎร์ธานี - อดีต ส.ท.ดอนสัก พร้อมชาวบ้านรวมตัวเรียกร้องให้เทศบาลเมืองดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เปิดประตูท่าเรือแหลมทวด ให้ชาวบ้านเข้าไปใช้ประโยชน์ หวิดวางมวยระหว่าง ส.ท.เก่ากับ ส.ท.คนปัจจุบัน สุดท้ายได้ข้อยุติยอมเปิดประตูท่าเรือ แต่ห้ามทำประมง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ท่าเรืออเนกประสงค์ท่าเรือแหลมทวด อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี นายดำรงศักดิ วิชัยดิษฐ์ อดีต ส.ท.พื้นที่ดอนสัก พร้อมชาวบ้านกว่า 20 คนรวมตัวเรียกร้องให้เทศบาลเมืองดอนสัก เปิดประตูทางเข้าท่าเรืออเนกประสงค์แหลมทวด หลังจากทางเทศบาลเมืองดอนสักได้ปิดประกาศปิดประตูท่าเรือไม่ให้ชาวบ้านหรือบุคคลภายนอกเข้าออก โดยกลุ่มชาวบ้านมาเรียกร้องอยากให้ทางเทศบาลชี้แจงถึงเหตุผลการปิดประตู ซึ่งระหว่างที่ตัวแทนชาวบ้านกำลังเจรจากับปลัดเทศบาลเมืองดอนสัก ได้มีสมาชิกสภาเทศบาลคนปัจจุบันได้เข้ามาชี้แจงจนเกิดเหตุวิวาทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนเกือบมีการชกต่อยกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านได้ช่วยห้ามไว้ทันเรื่องจึงยุติ
ทางแกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า การปิดกั้นไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้าไปในพื้นที่ท่าเรือนั้นเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน เนื่องจากท่าเรือนั้นเป็นท่าที่ก่อสร้างจากเงินภาษีของประชาชน ไม่ใช่ท่าเรือเอกชน การที่ประชาชนทั่วไปหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่ต้องการเดินไปชมวิว หรือถ่ายภาพหรือพักผ่อน หรือชาวบ้านในพื้นที่ไม่สามารถเข้าออกได้จึงเห็นว่าไม่เหมาะสม จึงเรียกร้องให้ทางเทศบาลดำเนินการเปิดประตูท่าเรือ หากไม่เปิดจะใช้ค้อนทุบกุญแจที่ปิดประตูเพื่อปลดแอกให้ประชาชน ถึงแม้จะถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการก็พร้อมที่จะรับเพื่อประชาชนได้รับผลประโยชน์
ด้านปลัดเทศบาลได้ชี้แจงว่า การปิดพื้นที่ท่าเรือชั้นในเป็นนโยบายของผู้บริหาร เนื่องจากที่ผ่านมา มีประชาชนไปทำการประมง (ทอดแห ตกปลา) ทำให้เหล็กราวสะพานชำรุดเสียหาย จึงมีประกาศห้ามบุคคลภายนอกเข้าออก ยกเว้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผู้โดยสารจากบริษัทการเดินเรือเท่านั้น ส่วนพื้นที่ลานจอดรถยังคงให้มีการใช้ประโยชน์ภายในเวลาที่กำหนด
โดยท่าเรือแหลมทวด เป็นท่าเรืออเนกประสงค์ที่ก่อสร้างจากงบประมาณกรมเจ้าท่า และมอบหมายให้กรมธนารักษ์เข้ามาดูแลจัดเก็บผลประโยชน์ ต่อมาได้มอบให้ทางเทศบาลเมืองดอนสักเข้ามาบริหารจัดการ ให้บริการขนส่งนักท่องเที่ยวจากท่าเรือไปยังเกาะต่างๆ เช่น เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า
หลังจากใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ทางผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์ประสานไปยังนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อหาทางออก สุดท้ายทางเทศบาลเมืองดอนสัก ยินยอมเปิดประตูท่าเรือให้ประชาชนเข้าออกในพื้นที่ท่าเรือชั้นในได้ตามปกติภายในเวลาที่กำหนด แต่จะต้องไม่ทำการประมงทุกชนิดภายในท่าเรือ ยกเว้นลานจอดรถด้านนอก
ชาวบ้านต่างพอใจที่ทางเทศบาลยินยอมเปิดประตูให้ประชาชนทั่วไป รวมทั้งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมวิว ถ่ายภาพ หรือ พาครอบครัวไปพักผ่อนในพื้นที่ดังกล่าวได้ ส่วนเรื่องการทำประมงในพื้นที่ทางแกนนำจะทำหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมอำเภอดอนสัก เพื่อเป็นตัวกลางหาทางออกในการทำประมงพื้นบ้านต่อไป
