ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ภาคประชาสังคม จ.สงขลา เตรียมนำพวงหรีดไปวางโรงพักสิงหนคร หลังไม่มีความคืบหน้าในคดีบุกรุกโบราณสถานเขาแดง ด้านผู้ว่าฯ สงขลาแจงออกหมายจับแล้ว 1 ราย และกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
วันนี้ (11 มี.ค.) จากกรณีที่ นายพงศ์ธันศ์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปากรที่ 11 อ.เมือง จ.สงขลา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร จ.สงขลา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อให้ดำเนินการกลุ่มผู้บุกรุกเข้าไปตัดถนนและขุดดินลูกรัง และเข้าครอบครองที่ดินในเขตโบราณสถานเขาแดง เขาเขียว ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จำนวน 2,200 ไร่
โดยหลังการร้องทุกข์กล่าวโทษปรากฏว่าไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาบุคคลเพื่อเป็นพยานในการจับกุมผู้ที่ทำการบุกรุกที่ดินในเขตโบราณสถาน ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภาคประชาสังคมใน จ.สงขลา เป็นอย่างมาก
ต่อมา เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา นายบรรงจง นะแส ผู้นำภาคประชาสังคมใน จ.สงขลา ได้ทำการตั้งโต๊ะและไลฟ์สดที่หน้าโบราณสถานในพื้นที่ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร โดยเรียกร้องให้ พ.ต.อ.เสรี วุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยนายบรรจง กล่าวว่า คนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ต่างรู้ดีว่าผู้บุกรุกเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ชื่อ เจ๊ อ. แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดยังนิ่งเฉย ไม่มีการดำเนินการออกหมายจับตามคำเรียกร้องของชาว จ.สงขลา ซึ่งหลังจากมีการไลฟ์สดและมีการเผยแพร่คลิปออกไป ปรากฏว่าได้รับความสนใจและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนใน จ.สงขลา เป็นจำนวนมาก ในขณะที่มีตัวแทนจากประชาชน และจากนักการเมืองได้นำแจกันดอกไม้ไปให้กำลังใจ นายพงศ์ธันศ์ สำเภาเงิน ผอ.สำนักงานศิลปากร จ.สงขลา จำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งชื่นชมที่กล้าต่อสู้กับอิทธิพลในพื้นที่
โดยตัวแทนภาคประชาสังคมจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งรับแจ้งความร้องทุกข์จาก ผอ.สำนักศิลปากรที่ 11 จ.สงขลา ยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการจับกุมผู้ทำความผิดในการบุกรุกพื้นที่โบราณสถานมาลงโทษ ชาวสงขลาจำนวนหนึ่งจะเดินทางนำพวงหรีดไปแสดงความอาลัยต่อกระบวนการยุติธรรมที่หน้า สภ.สิงหนคร ในวันเสาร์ที่ 12 มีนาคมนี้
เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า หลังที่มีการแจ้งความ ทางจังหวัดได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเอาผิดกับผู้ที่ทำการบุกรุกโบราณสถานแล้ว 1 ราย คือ นายสมบัต เหาตะวะนิช ซึ่งรับว่ามีส่วนในการใช้รถตัดถนนเข้าไปในที่ดินของตน ซึ่งเป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ
ส่วนผู้บุกรุกรายอื่นๆ โดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิงหนคร อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับจากศาลจังหวัดสงขลาอยู่ และนอกจากฝ่ายปกครองและตำรวจที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อหาคนผิดมาลงโทษ คดีนี้ ป.ป.ช. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้มีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่ หากพบว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนและนักการเมือง
ในขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้สอบสวนข้อเท็จจริงการบุกรุกโบราณสถานเขาแดง ซึ่งเป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของ จ.สงขลา อย่างเด็ดขาด
สำหรับพื้นที่แห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็น “โบราณสถาน” จำนวน 2,200 ไร่ ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแดง และเขาเขียว ประกอบด้วย โบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองสงขลา ที่มีการอนุรักษ์ คือ ป้อมปืนจำนวน 9 ป้อม เจดีย์องค์ดำ เจดีย์องค์ขาว ประตูเมือง กำแพงเมือง เพื่อป้องกันการบุกรุกในสมัยที่เมืองสงขลายังชื่อว่า “เมืองสิงกอร่า” มีวัดโบราณอีก 3 วัด คือ วัดเขาน้อย ที่ถูกบุกรุกจากผู้มีอิทธิพลเข้าไปทำบ่อลูกรังในการขุดดินขาย วัดสุวรรณคีรี และวัดบ่อทรัพย์ และที่สำคัญโบราณสถานที่กล่าวมาทั้งหมด จังหวัดสงขลาอยู่ระหว่างการรวบรวมเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกอยู่ในขณะนี้