xs
xsm
sm
md
lg

อดีตครูเพาะขยายพันธุ์ “พืชกระท่อม” ในสวนปาล์ม จ.ตรัง สร้างรายได้อย่างงามนับล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - อดีตครูหันเพาะขยายพันธุ์ “พืชกระท่อม” ในสวนปาล์ม ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ลงมือทำแค่ไม่กี่เดือน สร้างรายได้ให้อย่างงดงามนับล้านบาท เพราะบางต้นมีราคาสูงถึง 1 หมื่นบาท ขณะที่ออเดอร์จากเกษตรกรทั่วประเทศเพียบ

ที่สวนปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 4 ปี ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นของ นายพสิษฐ์ บุญยอด อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครู และเป็นเกษตรกรชาวสวนยางพารา และปาล์มน้ำมัน พร้อมผู้นำฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้นำผู้สื่อข่าวลงดูพื้นที่แปลงเพาะขยายพันธุ์ต้นกล้าพืชกระท่อมที่มีนับล้านต้น จากจำนวน 3 สายพันธุ์ คือกระท่อมก้านแดง กระท่อมก้านแดงหางกั้ง และกระท่อมเขียวใบโพธิ์ ในพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ (จากเนื้อที่สวนปาล์ม 14 ไร่) โดยแตกต่างจากแปลงเพาะขยายพันธุ์กระท่อมพื้นที่อื่นๆ คือใช้พื้นที่ว่างในสวนในปาล์มน้ำมัน ซึ่งได้ปริมาณแสงที่พอดีมาทำเป็นแปลงเพาะ ซึ่งมีทุกขนาด ทั้งต้นอ่อน ต้นที่กำลังเติบโต และต้นที่ได้ขนาดรอส่งขายตามออเดอร์ของลูกค้าที่มีเข้ามาทั้งในจังหวัด ต่างจังหวัด และทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


โดยที่แปลงแห่งนี้ได้ทำการขยายพันธุ์พืชกระท่อมทั้งหมด 2 วิธี คือ 1.ต้นกล้าจากการเพาะเมล็ด โดยต้นกล้าพันธุ์ที่ได้จากการเพาะเมล็ด ลูกค้าเกือบทั้งหมดเป็นเกษตรกรที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพจากการปลูกพืชหลักชนิดเดิม เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าว แล้วหันมาปลูกพืชกระท่อมแทน โดยมีขายหลายราคาตั้งแต่ต้นละ 60-200 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น และ 2.ต้นกล้าจากการเสียบยอด โดยการนำยอดของพืชกระท่อมทั้ง 3 สายพันธุ์ มาเสียบยอดบนต้นกระท่อมขี้หมู ซึ่งเป็นพืชกระท่อมในพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยซื้อจากชาวบ้านที่ขุดมาขายให้ในราคาต้นละ 10 บาท และถึงหลักหลายร้อยบาท แล้วแต่ขนาดของต้น

จากนั้นนำยอดของกระท่อมก้านแดง กระท่อมก้านแดงหางกั้ง และกระท่อมเขียวใบโพธิ์ มาเสียบยอด ทำให้แต่ละต้นอาจได้ถึง 3 สายพันธุ์ หรือเสียบยอดตามออเดอร์ของลูกค้า ส่วนราคาขายหลังเสียบยอดขึ้นอยู่กับขนาดเช่นกัน ตั้งแต่หลักร้อยถึงแพงสุดประมาณ 10,000 บาท ซึ่งมีไม่พอขาย เป็นที่นิยมของลูกค้ามีเงินที่ต้องการนำไปปลูกที่บ้าน เพื่อไว้เก็บกินเป็นยาสมุนไพรในครัวเรือน ใช้รักษาโรค หรือตามร้านค้า ร้านอาหาร และปั๊มน้ำมันต่างๆ โดยลูกค้าจะสั่งเข้ามาทางออนไลน์ และปากต่อปาก


นายพสิษฐ์ กล่าวว่า ตนเองเริ่มหันมาจับพืชกระท่อมตั้งแต่มีการประกาศปลดล็อกออกจากสารเสพติด โดยสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์มารอไว้ก่อน และสั่งซื้อต้นกระท่อมขี้หมูมาจากชาวบ้าน โดยเริ่มจากขยายพันธุ์ขาย แล้วทำในพื้นที่ว่างในสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งระยะเวลาเพียงแค่ 3-4 เดือน สามารถทำรายได้ให้อย่างงดงามนับล้านบาท เพราะเป็นที่ต้องการของเกษตรกรที่หันมาปลูกกันมากขึ้น เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่อนาคตสดใส และทั่วโลกยอมรับ เพราะใช้เป็นยารักษาโรคความดัน เบาหวาน ที่มีผู้ป่วยทั่วโลกเช่นกัน และอนาคตยังรองรับความเติบโตในภาคอุตสาหกรรมยาด้วย

ดังนั้น ตนเองตัดสินใจโค่นยางพาราทิ้งเพิ่มอีก 2 แปลง รวมเนื้อที่ 28 ไร่ เพื่อมาปลูกกระท่อมเพิ่ม ส่วนปัญหาปุ๋ยราคาแพงไม่กระทบ เพราะตนเองกับพี่น้องรวม 5 คน ได้รวมกลุ่มกันผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง โดยทำจากกากน้ำตาล มูลวัว มูลหมู มูลไก่ และแกลบ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อมาดูงานได้ที่เบอร์โทร.08-9649-9296






กำลังโหลดความคิดเห็น