ศูนย์ข่าวภาคใต้ - กลุ่มหนุนนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ยื่นหนังสือถึง "นายกฯ ประยุทธ์" ขอให้เร่งดำเนินการอดีตรองนายก อบจ.สงขลา-ที่ปรึกษา ศอ.บต.โต้ข้อมูลเรื่องประมงทะเลจะนะไม่ได้สมบูรณ์เหมือนที่เอ็นจีโบอก
วันนี้ (9 มี.ค.) นายสมหมาย ขวัญทองยิ้ม คณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า ตนเป็นคนที่มีบ้านเกิดในพื้นที่โครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ จ.สงขลา ในอดีตเป็นรับราชการเป็น ผอ.โรงเรียน และเป็นที่ปรึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา รู้เรื่องในพื้นที่ดี และเห็นว่าเรื่องที่ฝ่ายต่อต้านซึ่งไม่ใช่คนในพื้นที่ อ.จะนะ ให้ข้อมูลแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริงทั้งหมด เป็นความจริงบางด้านเท่านั้น เช่น เรื่องความอุดมสมบูรณ์ของปลาในทะเลจะนะ ที่วันนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่มีการให้ข้อมูล วันนี้คนที่ทำอาชีพประมง เปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นเป็นจำนวนไม่น้อย และยังมีอีกหลายๆ เรื่อง หลายๆ ด้านที่ไม่ได้เป็นไปตามที่มีการให้ข้อมูล เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงพื้นที่หาข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่เรื่องการบิดเบือน เพราะข้อเท็จจริง จะทำให้เป็นส่วนสำคัญของการตัดสินใจที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ กลุ่มประชาชนในพื้นที่ 3 ตำบลของ อ.จะนะ ได้แก่ ต.สะกอม ต ตลิ่งชัน และ ต.นาทับ ที่สนับสนุนโครงการดังกล่าวได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้โครงการเกิดขึ้นโดยไม่ชักช้า ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมเป็นตัวแทนในการรับหนังสือ โดยตัวแทนของกลุ่มผู้สนับสนุน กล่าวว่า ผู้คนใน 3 ตำบลของ อ.จะนะ ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน บางหมู่บ้านต้องไปรับจ้างทำงานในต่างพื้นที่เกือบทั้งหมด เหลือเพียงผู้สูงอายุอยู่บ้าน เมื่อก่อนไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย แต่ปัจจุบันมาเลเซียปิดประเทศ และในพื้นที่ไม่มีการจ้างงาน ต้องอยู่ด้วยความลำบาก ส่วนหนึ่งทำสวน ทำนา ฐานะพออยู่พอกิน คุณภาพชีวิตไม่ดีขึ้น ลูกๆ หลานๆ ส่วนหนึ่งจบการศึกษาแต่ยังว่างงาน ถ้าในพื้นที่มีนิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้น ปัญหาเหล่านี้จะได้รับการแก้ไข และจะมีกิจการอื่นๆ ตามมา ซึ่งต้องได้ประโยชน์กับคนในพื้นที่ไม่มากก็น้อย
หนึ่งในผู้สนับสนุนโครงการยังกล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องที่เอ็นจีโอจากนอกพื้นที่เข้ามาบอกกับคนในพื้นที่ว่า การเกิดขึ้นของนิคมอุตสาหกรรมจะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนไป ปลาในทะเลน้อยลง และเกิดผลกระทบกับอาชีพของคนในพื้นที่ มีผลเสียในเรื่องของสุขภาพและมลพิษ เรื่องนี้พวกเราฟังมาจนเคยชิน เพราะเอ็นจีโอบอกเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อสร้างโรงงานแยกก๊าซ ทรานส์ไทย-มาเลเซีย จนขณะนี้โรงงานแยกก๊าซตั้งมา 20 กว่าปี ยังไม่เกิดปัญหาตามที่เอ็นจีโอบอก และในตอนที่มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ที่ อ.จะนะ เอ็นจีโอบอกให้ประท้วง เพราะจะเป็นอันตรายเรื่องของมลพิษ และเรื่องของสุขภาพ แต่ปรากฏว่า โรงไฟฟ้าของ กฟผ.เกิดขึ้นแล้ว 2 โรง คนจะนะ ยังอยู่กับโรงงานได้ โดยที่ไม่เป็นอย่างที่เอ็นจีโอได้ให้ข้อมูล
"ดังนั้น พวกเราจึงไม่เชื่อ และต้องการบอกให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับรู้ว่า เรื่องที่เอ็นจีโอพูดไม่เป็นความจริง และให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เร่งผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว อย่างไปฟังและเชื่อเอ็นจีโอเพียงฝ่ายเดียว"