ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บุกทลายโกดัง 3 แห่งใน 2 อำเภอของ จ.สงขลา ใช้เก็บสินค้าหนีภาษีที่ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ ยึดของกลางบุหรี่ สุรา และไพ่ป๊อก มูลค่าประมาณการค่าปรับสูงกว่า 560 ล้านบาท เผยเป็นการกวาดล้างจับกุมครั้งใหญ่สุดในพื้นที่ จ.สงขลา
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 นายวิวัฒน์ เขาสกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต รักษาการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรพสามิต ภายใต้การการอำนวยการของ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรสามิต ร่วมกับ นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมกันแถลงข่าวการกวาดล้าง และจับกุมบุหรี่ สุราหนีภาษี และสินค้าหนีภาษีที่ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยมิได้เสียภาษี และมิได้ผ่านพิธีทางศุลกากร รายใหญ่และครั้งใหญ่ที่สุดในพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9
โดยสามารถยึดของกลางรวมประมาณการค่าปรับสูงถึง 560,450,000 ล้านบาท แยกเป็นบุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 851,460 ซอง คิดเป็นมูลค่าภาษีประมาณ 50 ล้านบาท และคิดเป็นประมาณการค่าปรับ 500 ล้านบาท สุราต่างประเทศ จำนวน 3,296 ขวด มูลค่าภาษีประมาณ 9 แสนบาท ค่าปรับ 9 ล้านบาท และไพ่ป๊อก 3,168 สำรับ มูลค่าภาษีประมาณ 5 หมื่นบาท ค่าปรับ 5 แสนบาท
หลังจากวานนี้ (1 มี.ค.) เจ้าหน้าที่สรรพสามิต นำโดย ว่าที่ ร.ต.ยงยุทธ ภูมิประเทศ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม นายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 และนายกฤษภาส ศิริปิตุภูมิ สรรพสามิตพื้นที่ จ.สงขลา สนธิกำลังกับ DSI เจ้าหน้าที่ศุลกากร ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ และฝ่ายปกครองอำเภอบางกล่ำ ปูพรมเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ และโกดังที่ใช้เก็บสินค้าผิดกฎหมาย จำนวน 3 แห่งใน 2 อำเภอของ จ.สงขลา ทั้งย่านบางหัก เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ย่านเนินขุมทอง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ และพื้นที่บ้านโคกเมา ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ และพบของกลางทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ เตรียมกระจายออกจำหน่ายตามท้องตลาดจำนวนมาก
นายวิวัฒน์ เขาสกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต รักษาการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรพสามิต เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจะเร่งปราบปรามกลุ่มผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษีทุกประเภท เช่น บุหรี่ และสุรา ทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ รวมถึงร้านค้าที่รับสินค้ามาจำหน่ายปะปนกับสินค้าอื่น และกรณีการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ค้าในประเทศ และจะดำเนินการทั่วประเทศ
ด้านนายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยว่า การจับกุมสินค้าหนีภาษีครั้งนี้ เป็นเคสใหญ่ในพื้นที่ จ.สงขลา และในภาคใต้ โดยในส่วนของกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ในภาคใต้นั้น ทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูลหมดแล้ว และจะขยายผลติดตามจับกุมต่อไป โดยจะดำเนินคดีทั้งด้านภาษี และฟอกเงินด้วย