ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายภาคประชาชนขยับเรียกร้องให้ “คนสงขลา” ร่วมกันต้านอิทธิพลมืด ขับเคลื่อนรักษา “โบราณสถานเขาแดง” เอาไว้ส่งต่อคนรุ่นหลัง ถาม อปท. นายอำเภอ และผู้ว่าฯ เหตุใดมองไม่เห็นปัญหาเขาแดงถูกบุกรุกมานาน
กรณีการบุกรุกโบราณสถานเขาแดง ในพื้นที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ด้วยการตัดโค่นต้นไม้ และตัดถนนขึ้นไปสู่ยอดเขา ซึ่งเป็นถนนกว้าง 4 เมตร ยาวประมาณ 1-2 กิโลเมตร ขึ้นสู่ยอดเขา โบราณสถานแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 2,460 ไร่ ครอบคลุมทั้งเขาแดง โดยสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มทุนผู้มีอิทธิพลที่เข้าดำเนินการในพื้นที่ เมื่อ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วานนี้ (1 มี.ค.) นายบรรจง นะแส พร้อมด้วย นายปรีชา สุขเกษม และนายชาญชูชัย เปียทะนงค์ รวมถึงแกนนำตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนจำนวนหนึ่งใน จ.สงขลา ได้เข้าพบ นายพงศ์ธันว์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ที่สำนักศิลปกรที่ 11 สงขลา เพื่อร่วมเรียนรู้ถึงปัญหา ผลกระทบ และสภาพของโบราณสถานเขาแดง รวมถึงกรณีการมีกลุ่มบุคคลที่กระทำการข่มขู่ขณะปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้กำลังใจ และแสดงเจตนารมณ์ที่จะยืนเคียงข้าง เพื่อร่วมรักษาโบราณสถานให้มีความสมบูรณ์เอาไว้ให้ลูกหลาน
นายบรรจง กล่าวว่า จากการเข้ามารับทราบข้อมูลความสำคัญของโบราณสถานเขาแดงวันนี้ พบว่า รอบหัวเขาแดง สถานที่ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ของเมือง มีสถานที่สำคัญของคนที่สร้างบ้านสร้างเมือง ทั้งศาสนาพุทธ และศาสนามุสลิม เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ ซึ่งเป็นมรดกสำคัญของคนสงขลา
โดยวันนี้พบว่าหัวเขาแดงถูกบุกรุก ถูกขุดเอาหินเอาดินไปขายมาหลายปี แต่การบุกรุกตัดต้นไม้เพื่อขุดทำถนนขึ้นสู่ยอดเขานั้น ประเมินว่าน่าจะดำเนินการมาแล้ว 5-6 เดือน ซึ่งทางสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ได้เปิดหน้าเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว หน่วยงานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายอำเภอ หรือแม้แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จะไม่รู้สึกอย่างไรหรือ จะไม่ทำอะไรเลยหรือ
เพราะมองจากศาลากลางจังหวัดสงขลา ก็มองเห็นสภาพเขาแดงที่มีร่องรอยของการขุดทำลาย ซึ่งปัญหานี้สะท้อนว่าสงขลาเราจะพึ่งราชการอย่างเดียวไม่ได้ และหากมีข้าราชการลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อบ้านเมือง คนสงขลาต้องให้กำลังใจ และต้องช่วยกันขับอำนาจมืด และอิทธิพลออกไปจากเมืองสงขลาให้ได้ ไม่เช่นนั้นเราจะรักษาเมืองไว้ไม่ได้
จึงต้องเรียกร้องให้คนสงขลาลุกขึ้นมาปกป้องจากอิทธิพล อำนาจมืด ที่ต้องยอมรับว่ามีอยู่จริง เราเคยมีเหตุการณ์ยิงนายกเทศมนตรีกลางเมือง ยิงข้าราชการดีๆ เยอะแยะ ดังนั้น คนสงขลาจึงต้องลุกมาปกป้องวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และเกียรติภูมิของคนสงขลา
โดยหลังจากนี้จะมีการจัดกิจกรรม ทั้งการให้กำลังใจส่วนราชการที่ตั้งใจเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องนี้ การจัดเวทีวิชาการให้ความรู้เรื่องโบราณสถานเขาแดงในสถาบันการศึกษา หรืออาจจะเป็นการขึ้นไปปลูกต้นไม้บนเขา เป็นต้น
โดยกรณีนี้ดังกล่าวนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.พ. นายพงศ์ธันว์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ได้เปิดภาพแผนที่โบราณสถานเขาแดง ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งมีพื้นที่ 2,460 ไร่ ถูกกลุ่มทุนลักลอบตัดโค่นต้นไม้ ปรับพื้นที่ทำถนนบนเขา ซึ่งถนนนั้นมีความกว้างถึง 4 เมตร และมีเส้นทางยาวที่อยู่ระหว่างการตรวจ ซึ่งจากการที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเบื้องต้นนั้น พบว่า น่าจะมีการนำเครื่องจักรเข้าทำการลักลอบตัดไม้ และปรับพื้นที่มานาน แต่กลับไม่ได้มีหน่วยงานใดในพื้นที่เข้าดำเนินการ และเมื่อเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากรพยายามเข้าตรวจสอบ กลับมีการข่มขู่ด้วยวิธีการต่างๆ จนทำให้เป็นอุปสรรค นอกเหนือจากการไม่ได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ โดยพบว่ามี 2 จุดใหญ่ที่ถูกบุกรุกทำลาย ซึ่งกระทบต่อความเป็นโบราณสถาน
นายพงศ์ธันว์ กล่าวว่า ทั้งนี้ได้นำเสนอเรื่องปัญหาการบุกรุก ทำลายโบราณสถานเขาแดงไปยัง นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อพิจารณาแล้ว โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบหมายให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีนายอำเภอ ตำรวจ สภ.สิงหนคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรที่ 11 เป็นคณะทำงานร่วมตรวจสอบ
ล่าสุดนั้น ทางสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา เป็นตัวแทนคณะทำงาน เตรียมนำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.สิงหนคร จ.สงขลา แล้ว
ขณะที่เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ณ ที่ว่าการอำเภอสิงหนคร จ.สงขลา นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในการประชุมการแก้ไขปัญหาการทำลายโบราณสถานเขาแดง พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นายปัญญา จินดาวงศ์ นายอำเภอสิงหนคร นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ตัวแทนจากเทศบาลเมืองสิงหนคร ผู้แทนจากสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ผู้แทนสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สงขลา ผู้แทนสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาสิงหนคร ผู้แทน กอ.รมน.จังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวม 30 คน เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา และป้องกันการบุกรุกทำลายโบราณเขาแดง ซึ่งถือเป็นโบราณสถานเมืองเก่าสงขลาที่สำคัญ
สำหรับกรณีการบุกรุกโบราณสถานข้างต้น มีการนำเสนอข่าวทางช่องไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 18.42 น. ว่ามีกลุ่มทุนนำเครื่องจักรขุดทำลายหัวเขาแดง เป็นเขาสูง และเป็นพื้นที่โบราณสถานเมืองเก่าเสียหาย 2 จุด เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แต่ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลข่มขู่ ซึ่งทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กำชับให้ส่วนราชการที่กำกับดูแลพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สงขลา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หากพบการกระทำผิดให้แจ้งความดำเนินคดี มุ่งเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังกำชับให้อำเภอสิงหนคร เทศบาลเมืองสิงหนคร และสถานีตำรวจภูธรสิงหนคร ให้การสนับสนุน และอำนวยความสะดวกในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่