ศูนย์ข่าวภูเก็ต – “ท็อป จิรายุส” ผู้ก่อตั้ง บิทคับ เวิลด์เทค เผยมุมมองการศึกษาไทยในอนาคต ในงานวันการศึกษาเอกชนภาคใต้ ที่ภูเก็ต ตั้งบิทคับ เวิลด์เทค เพื่อปั้นเยาวชนไทยสู่อุตฯบล็อกเซน การศึกษาไทยเปลี่ยนเป็นระบบเปิด พร้อมสร้างแพลตฟอร์มและสร้างโมเดลใหม่ๆ ให้เยาวชนได้เรียนรู้
วันนี้ (27 ก.พ.) ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ได้จัดงานวันการศึกษาเอกชนภาคใต้ และร่วมกับ บริษัท Bikub World Tech นำทีมโดย นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ และ นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง บริษัท บิทคับ เวิลด์เทด จำกัด จัดบรรยายในหัวข้อ "Melaverse กับการศึกษาในอนาคต" โดย ท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา และแขกรับเชิญพิเศษ ซึ่งภายในงานมีผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนในภาคใต้กว่า 300 คน เข้าร่วม
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง บริษัท บิทคับ เวิลด์เทด จำกัด กล่าวว่า การมาภูเก็ตในวันนี้ เพื่อที่จะพูดคุยกับผู้ที่เข้าร่วมสัมมนาที่เป็นผู้บริหารโรงเรียนเอกชนในภาคใต้และผู้ฟังทางบ้านถึงการเปลี่ยนแปลงการจัดระบบการศึกษาของไทยเพื่อรองรับโลกในอนาคต ที่ก้าวสู่เว็ปในยุคที่ 3 ที่เทคโนโลยีดิจิทัลจะมีบทบาทอย่างมากในหลายๆมิติ ทำให้เกิดความต้องการของแรงงานที่มีความรู้ความสามารถในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น การจัดการศึกษาของไทยก็ต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนไป
เพื่อเป็นการตอบรับกับกระแสที่เปลี่ยนไป ทาง บิทคับ เวิลด์เทด จึงได้ร่วมกับ คุณ วิชัย ทองแตง ก่อตั้ง Bikub World Tech ขึ้นมาเพื่อพัฒนาระบบการศึกษาและพัฒนาคุณภาพการศึกษาเด็กไทยให้สามารถปรับตัวได้ในโลกอนาคต ที่มีเป้าหมายในการยกระดับทักษะที่มีให้ดีกว่าเดิม (upskill) และการสร้างทักษะขึ้นมาใหม่ (reskill) ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเด็กไทยให้ตรงกับความต้องการในอนาคต และเพิ่มรายได้ให้กับคนไทยอีกด้วย
โดยเริ่มจากเด็กในสถาบันการศึกษาระดับอาชีวะ เพื่อให้เด็กกลุ่มนี้มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การเขียน Blockchain AI IOT Big Data Cloud เป็นต้น ซึ่งตลาดแรงงานมีความต้องการสูงมาก แต่จำนวนคนที่มีความรู้ความสามารถในด้านนี้ยังมีน้อยมาก เรียกว่าอยู่ในภาวะขาดแคลน และยังเป็นกลุ่มที่สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองสูงอีกด้วย
นายจิรายุส กล่าวต่อว่า การศึกษาของไทยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นระบบเปิดมากขึ้นด้วยจากที่ขณะนี้การศึกษาของไทยเราเป็นระบบปิดที่ทุกอย่างคิดมาจากข้างบน ทาง Bikub World Tech จะเข้ามาสนับสนุนการระบบศึกษาของไทยโดยการสร้างเป็น Open Education System และเป็น Open Education Platform ที่และการสร้างโมเดลใหม่ learn to Learn เรียนอะไรก็ได้เงินทุกอย่าง ทำอะไรก็ได้เงิน ซึ่งการเรียนก็จะเปลี่ยนไป ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนที่ตัวเองต้องการได้ ผ่านทางระบบออนไลน์ รวมไปถึงต้นทุนการเรียนก็จะลดลงอีกด้วย มีคนสอนแค่คนเดียว คนเรียนจำนวนมากแค่ไหนก็ได้ และต้นทุนการศึกษาก็จะต่ำไปด้วย เพราะไม่ว่าจะเรียนคนเดียวหรือเรียนพันคนหมื่นคนต้นทุนก็เท่าเดิม คนเรียนสามารถเลือกเรียนในสิ่งที่ยากจะเรียนโดยไม่ต้องจ่ายเต็มคอสก็เหมือนที่ผ่านมา
