นครศรีธรรมราช - คลื่นถล่มชายฝั่ง อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช อย่างรุนแรง ชายหาดถูกกัดเซาะหนัก ชาวบ้านเรียกร้องเร่งศึกษาทบทวนการก่อสร้างโครงสร้างแข็ง คาดก่อผลกระทบเป็นลูกโซ่ไม่รู้จบหรือไม่ ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงท่วมเมืองปากพนังแล้ว
วันนี้ (26 ก.พ.) ชาวในพื้นที่หมู่ 5 บ้านโพธิ์ทะเลงาม ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ต้องเร่งโค่นต้นมะพร้าวเท่าที่สามารถโค่นได้ทัน เพื่อเก็บไม้ไว้ใช้งานก่อนที่จะล้มลงไปในทะเล หลังจากที่แนวสวนมะพร้าวของชาวบ้านถูกคลื่นสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงซัดเข้าหาฝั่งกัดเซาะอย่างรุนแรง โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พื้นดินหายไปแล้วกว่า 20 เมตร ทะเลเข้าท่วมแนวบ้านเรือนของชาวบ้าน และยังคงกัดเซาะอย่างหนัก โดยยังไม่มีทางแก้ไขปัญหา แนวที่ดินของชาวบ้านในละแวกนี้ถูกคลื่นซัดกัดเซาะหายไปในทะเลลึกเข้ามาแล้วกว่า 70 เมตร ในช่วงตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา และยังคงมีแนวโน้มที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงคลื่นลมรุนแรงหน้ามรสุมตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ
นางกาญจนา ทรงศรี ชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า ความรุนแรงของการกัดเซาะเริ่มเร็วขึ้น และหนักขึ้น หลังจากที่มีการก่อสร้างแนวหินกันคลื่นทางทิศใต้ของบ้านโพธิ์ทะเลงาม ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศ การกัดเซาะทวีความรุนแรงมากขึ้น ขอเรียกร้องให้ทางการศึกษาอย่างรอบด้าน เนื่องจากชาวบ้านเห็นแล้วว่ายิ่งก่อสร้างแนวกันคลื่น ยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้พื้นที่ที่ไม่เคยมีการกัดเซาะ และยังเร่งก่อสร้างยิ่งไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เกิดปัญหาเป็นลูกโซ่ต่อไปไม่รู้จบ ชายหาดทรายทะเลอ่าวไทยยิ่งหมดไปเรื่อยๆ กลายเป็นแนวกันหินกันคลื่นแทนหมด สิ้นคุณค่าชายหาด และท้องทะเลไปอย่างเรียกคืนไม่ได้
ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงได้สร้างปัญหาให้หลายพื้นที่ เช่น ใน อ.ปากพนัง เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ ในโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง กลายเป็นแนวกั้นน้ำเมื่อเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูง จึงส่งผลให้เมืองปากพนังทั้งเมืองถูกน้ำทะเลเข้าท่วม ที่มีต้นทางเอ่อมาจากแม่น้ำปากพนัง สร้างความเดือดร้อนให้ย่านการค้า และชุมชนเมืองเป็นวงกว้าง
โดยล่าสุด นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมด่วนทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการบริหารการเปิดปิดประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ เพื่อเร่งแก้ปัญหา หลังจากพบว่าปรากกฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูงจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 3-4 วันนี้