ตรัง - อุปทูตสหรัฐฯ ลง จ.ตรัง ประทับใจวัฒนธรรมผสมผสานกันตัง เดินเท้าสำรวจเมืองเก่า ชิมขนมท้องถิ่น เสี่ยงเซียมซีได้โชคดี เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านพระยารัษฎาฯ บิดายางพาราไทย ประทับใจเด็กๆ นำชม แนะหากจะบูรณะให้เสนอโครงการขอทุนสหรัฐฯ ได้
วันนี้ (25 ก.พ.) นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต หน่วยงานสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมคณะเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ลงพื้นที่ศึกษาโครงการพัฒนาชุมชนและแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรมในพื้นที่ อ.กันตัง จ.ตรัง ประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์บ้านพระยารัษฎานุประดิษฐ์ มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) บิดายางพาราไทย, ชมต้นยางพาราต้นแรกของประเทศไทย, ศาลเจ้าไหหลำ กลุ่มกันตังเมืองเก่า, มัสยิดปากีสถาน, ศาลเจ้าฮกเกี้ยน และกลุ่มจักสานก้านจากวังวน โดยได้แวะรับประทานกาแฟและขนมพื้นเมืองที่ร้าน หม่าโถว พร้อมพบปะกับสื่อมวลชนประจำจังหวัดตรัง โดยอุปทูตสหรัฐฯ ให้ความสนใจ พร้อมซักถามความเป็นมา และชิมขนมและอาหารท้องถิ่น เช่น ขนมโกปังเกด ขนมอาโปง ข้าวเหนียวสองดัง ขนมม่อฉี ข้าวเหนียวต้มใบกระพ้อ ขนมขี้มอด และกาแฟอเมริโน-ลูกจาก ในติหมาใบจาก ซึ่งเป็นพืชริมฝั่งปากแม่น้ำตรัง
ทั้งนี้ ที่พิพิธภัณฑ์บ้านพระยารัษฎาฯ มีเยาวชนจากโรงเรียนกันตังพิทยากร นำบรรยายถึงความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ฯ ซึ่งอดีตเจ้าเมืองตรังเคยพักอาศัย และเป็นผู้นำยางพาราจากแถบมลายูเข้ามาประเทศไทย ก่อนจะแพร่ขยายไปทั่วประเทศ กลายเป็นอาชีพทำกินของคนไทยมาหลายชั่วอายุคนโดยเฉพาะชาวใต้ แต่ปัจจุบันมีสภาพชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา เพราะเป็นบ้านไม้เก่าแก่อายุนับร้อยปี อย่างไรก็ตาม ในการซ่อมแซมยังมีข้อติดขัด เนื่องจากที่ดิน และตัวบ้านถือเป็นทรัพย์สินของเอกชนลูกหลานพระยารัษฎาฯ ทำให้หน่วยงานรัฐไม่สามารถตั้งงบประมาณเข้าไปบูรณะดูแลได้
จากการสำรวจสภาพของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง พบความชำรุดทรุดโทรม อาทิ 1.โครงสร้างของเสารับน้ำหนักมุขด้านหน้าทั้งสองข้างของบ้านที่เริ่มโยก ซึ่งอาจเป็นอันตรายหากมีคนขึ้นไปยืนจำนวนมากๆ 2.พื้นกระดานไม้ชั้นบนที่ผุ 3.บันไดหลักทางขึ้นชั้นสองจากด้านหน้าถูกทำลายโดยปลวก 4.ราวกันตกด้านหลังบ้านหลุด และผุพัง และ 5.เชิงชายหลังคาไม้ที่หลุดล่อน เป็นต้น
นอกจากนี้อุปทูตสหรัฐฯ ยังได้เดินเท้าชมสถาปัตยกรรมเมืองเก่ากันตัง ไปยังศาลเจ้าฮกเกี้ยน มัสยิดปากีสถาน และศาลเจ้าแม่ทับทิม สักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ประจำศาลเจ้า พร้อมเสี่ยงเซียมซี โดยผลการเสี่ยงเซียมซีได้ใบที่ 17 เป็นใบที่ระบุคำทำนายที่ดีเลิศในทุกด้าน และชมการแสดงระบำชุดบะบ๋า-ยะหย๋า จิบน้ำชาและขนมโกปังเกด เค้กตรัง ขนมจีบสังขยา ซึ่งกลุ่มเมืองเก่ากันตังเตรียมไว้ต้อนรับ
นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต หน่วยงานสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า กันตังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เป็นมรกดที่ตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยที่ชาวจีนย้ายมาตั้งรกรากที่เมืองกันตัง จะเห็นได้จากตัวอย่างของศาลเจ้า วัด จะเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นการผสมผสานระหว่างชาวจีนฮกเกี้ยน ชาวมาเลเซีย และชาวไทย วัฒนธรรมเหล่านี้สะท้อนมาในรูปแบบของ อาหาร ศาลเจ้า ผู้คน และประสบการณ์ต่างๆ ตนประทับใจว่าประเทศไทยทุกภูมิภาคมีความแตกต่าง หลากหลายทางวัฒนธรรม และธรรมเนียมต่างๆ ผู้คนมีความเป็นมิตร และตนอยากเห็นผู้คนมาท่องเที่ยวที่ตรังมากขึ้น หลังจากโควิด-19 จางไป ในขณะที่ทุกวันนี้ผู้คนเดินทางไม่เยอะ หลายธุรกิจยังคงปิดตัว หวังว่าในอนาคตจะเห็นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจกลับมาเฟื่องฟูดังเดิม หวังว่าโควิด-19 รอบนี้จะเป็นระลอกสุดท้าย อยากจะเห็นธุรกิจ การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีก
“ตรังมีเศรษฐกิจที่ดีมาก เพราะมียางพารา และพืชเศรษฐกิจอื่น ผมจะกลับมาเที่ยวกันตังอีกบ่อยๆ ผมได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านพระยารัษฎาฯ ผมประทับใจมากที่มีเด็กนักเรียนคอยต้อนรับ แนะนำ เป็นผู้นำเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ฯ ทำให้เข้าใจประวัติศาสตร์ของครอบครัวพระยารัษฎาฯ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง วางรากฐานสำคัญของเมือง ก่อนจะมีผู้ว่าราชการจังหวัด และท่านยังเป็นคนแรกที่นำต้นยางพาราต้นแรกมาปลูกในเมืองไทย จนเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย และขอฝากขอบคุณเด็กนักเรียนที่นำชมพิพิธภัณฑ์ในวันนี้” อุปทูตสหรัฐฯ กล่าว
อุปทูตสหรัฐฯ กล่าวอีกว่า สำหรับความต้องการของคนในพื้นที่ในเรื่องการพื้นฟูพิพิธภัณฑ์บ้านพระยารัษฎาฯ ที่มีความชำรุดทรุดโทรมลงตามการเวลานั้น ในส่วนของสหรัฐฯ มีกองทุนเอกอัครราชทูตเพื่อการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม (AFCP) ที่ดำเนินการในด้านอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งในประเทศไทยมีหลายสถาปัตยกรรมที่ทรุดโทรม และมีคนเก่าคนแก่ในแต่ละพื้นที่ต้องการรักษาสถาปัตยกรรมไว้ เพราะเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นของภูมิภาคนั้นๆ ซึ่งจะสืบสานไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน ตนเขาใจถึงความต้องการจะหาทุนมาเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟูสถาปัตยกรรม หรือพิพิธภัณฑ์เหล่านี้
โดยที่ผ่านมากองทุนฯ ได้ช่วยมาแล้ว 20 โครงการ เช่น โครงการบ้านโบราณล้านนา จ.เชียงใหม่, โครงการโลงผีแมน จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งที่แม่ฮ่องสอนทางกองทุนฯ ได้สนับสนุนการขุดค้นโบราณคดี, การให้ทุนกับวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมวัด ซึ่งทางกองทุนฯ มีความเข้าใจ และเห็นใจว่าต้องการอนุรักษ์ไว้ ซึ่งในส่วนของการพื้นฟูพิพิธภัณฑ์บ้านพระยารัษฎาฯ สามารถติดต่อขอข้อมูลหรือส่งโครงการ และใบสมัครไปได้ ซึ่งจะมีการพิจารณาทุกปี ทั้งราชการ และเอกชน สามารถขอการสนับสนุนจากกองทุนได้ หรือจะระดมทุนจากภาคอื่นๆ มาด้วยก็ได้