ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อบจ.ภูเก็ต เดินหน้า 3 โครงการใหญ่ ผุดแลนด์มาร์กใหม่ สร้างระเบียงกระจก-สะพานกระจก ดึงนักท่องเที่ยว ยกระดับระบบขนส่งมวลชน แก้ปัญหาค่าโดยสารแพง
นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการสร้างแลนด์มาร์กใหม่ในจังหวัดภูเก็ต และการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ในการพัฒนาสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้จังหวัดภูเก็ตนั้น ตนและผู้บริเวณได้ประกาศอย่างชัดเจนในการแถลงนโยบาย ว่าจะผลักดันแลนด์มาร์กใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับจังหวัดภูเก็ต เช่น ระเบียงกระจก และ สะพานกระจก และโครงการยกระดับการให้บริการระบบขนส่งมวลชน โดยในปี 2565 คิดว่าจะเห็นโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับโครงการระเบียงกระจก และสะพานกระจก ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการขอใช้พื้นที่ โดยในส่วนของสะพานกระจกนั้นกำหนดไว้ที่จุดชมวิวบริเวณเขาแดง หมู่ที่ 6 ต.ราไวย์ ใกล้กับสนามฟุตบอลเขาแดง ส่วน ระเบียงกระจกกำหนดไว้ที่แหลมแพนซี หาดสุรินทร์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากผ่านความเห็นชอบเรื่องของการขอใช้ที่ดิน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จะนำเข้าสู่ขั้นตอนของการออกแบบ โดยให้ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับหลักวิศวกรรมเป็นผู้ออกแบบ ส่วนจะเป็นมหาวิทยาลัยไหนจะขึ้นอยู่การประกวดราคา
สำหรับการสร้างแลนด์มาร์กใหม่ในพื้นที่จะเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยว และจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ทั้งคนไทยและชาวชาติ จากการสำรวจข้อมูลพบว่า ยังมีคนไทยอีกประมาณ 84% ที่ไม่เคยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่ภูเก็ตจะต้องพึ่งตัวเองโดยการดึงนักท่องเที่ยวคนไทยเข้ามาเที่ยวที่ภูเก็ต เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ขึ้นมาในพื้นที่ และสิ่งที่จะดึงให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น คือ การสร้างแลนด์มาร์กใหม่
นายเรวัต กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตจะต้องเร่งดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งคาดว่าในปี 2565 เรื่องนี้จะมีความชัดเจน
นายเรวัต ยังได้กล่าวต่อไปถึงการพัฒนาระบบขนส่งในจังหวัดภูเก็ต ว่า อบจ.ภูเก็ต มีนโยบายที่จะปรับปรุงรถโดยสารประจำทางของ อบจ.ภูเก็ต ที่ให้บริการให้อยู่ในขณะนี้ 3 เส้นทางให้มีประสิทธิภาพและประชาชนได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด ทาง อบจ.ภูเก็ต จึงได้เสนอขอการปรับปรุงเส้นทาง และตัวรถที่ให้บริการให้ทันสมัยและตอบโจทยฺความต้องการของพี่น้องชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ไปยังคณะกรรมการขนส่งทางบกจังหวัดภูเก็ตพิจารณา ซึ่งขณะนี้ทางคณะกรรมการขนส่งทางบกจังหวัดภูเก็ตได้เห็นชอบเส้นทางและการนำรถ EV มาให้บริการ
โดยเส้นทางที่มีการปรับปรุงใหม่ทั้ง 3 เส้นทาง ประกอบด้วย สายที่ 1 สายสีเหลือง เริ่มต้นที่สะพานหิน ไปสิ้นสุดที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลภูเก็ต ระยะทาง 11 กิโลเมตร โดยเส้นทางนี้จะผ่านโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ อาชีวะ โรงเรียนบ้านบางเหนียว หอนาฬิกา บขส.แห่งที่ 1 ห้างไลม์ไลท์ โรงเรียนสตรีภูเก็ต วิทยาลัยเทคนิค โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพฯ สามกอง โลตัส บิ๊กซี และเซ็นทรัล และขากลับผ่านย่านเมืองเก่าภูเก็ตอีกด้วย
สายที่ 2 ท่าเรืออ่าวฉลอง-ห้างซุปเปอร์ชีป หรือสายสีแดง เริ่มจากท่าเรืออ่าวฉลอง ห้าแยกฉลอง มาตามถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ผ่านโรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน โรงเรียนดาวรุ่ง ศาลากลางหลังใหม่ วิทยาลัยสารพัดช่าง อาชีวะภูเก็ต ตรวจคนเข้าเมือง สี่แยกบางเหนียว โรบินสัน ตลาดเกษตร บขส. แห่งที่ 1 ห้างไลม์ไลท์ โรงเรียนสตรีภูเก็ต โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย ราชภัฏภูเก็ต บขส.แห่งที่ 2 และห้างซุปเปอร์ชีป ระยะทาง 18 กิโลเมตร
สายที่ 3 ท่าเทียบเรือรัษฎา-ห้างเดอะมอลล์ (สวนน้ำ) หรือสายสีเขียว เริ่มจากท่าเรือรัษฎา ผ่านโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต บขส.แห่งที่ 1 ห้างไลม์ไลท์ แยกสตรีภูเก็ต โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย สถานีตำรวจเมืองภูเก็ต เข้าสู่ถนนแม่หลวน โรงเรียนภูเก็ตไทยหัว สนามกีฬาสุระกุล ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แยกซ้ายไปถนนพระเก็จแก้ว สิ้นสุดที่สวนน้ำ ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร
นอกจากนั้น ทาง อบจ.มีแผนที่จะยกเลิกรถโพถ้อง และเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า หรือรถ EV แทน เพื่อให้เกิดความทันสมัย สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ลดปัญหามลพิษ และแก้ปัญหาการจราจรติดขัด สำหรับการดำเนินการเรื่องนี้ ทาง อบจ.ภูเก็ตกำลังรอกระทรวงคมนาคม โดยกรมขนส่งทางบกอนุมัติเส้นทาง หลังจากได้เส้นทาง ทาง อบจ.จะดำเนินการเปิดประมูลเพื่อให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาชาวบ้าน และ อบจ.ภูเก็ต ได้สะท้อนปัญหาเรื่องราคาค่าโดยสารในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเสนอเรื่องเส้นทางการเดินรถจากสนามบินภูเก็ตมาให้ อบจ.บริหาร ซึ่งจะทำให้เส้นทางเดินรถในภูเก็ตครอบคลุม ซึ่งถ้าได้เส้นทางมาจะเปลี่ยนมาใช้รถ EV เข้ามาวิ่ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวเห็นเลยว่าค่าโดยสารในภูเก็ตไม่แพงอย่างที่คิด
ซึ่งได้วางแนวทางการเปลี่ยนตัวรถให้บริการไว้ 2 แนวทางด้วยกัน คือ 1.การเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนกับ อบจ.ภูเก็ต ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อพิจารณาให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายร่วมลงทุน และ 2.เป็นการจัดซื้อรถไฟฟ้า โดย อบจ.ภูเก็ต เองหากไม่ร่วมลงทุนกับเอกชน
สำหรับตัวรถ EV ที่ อบจ.กำหนดไว้ในเบื้องต้น จะเป็นรถมินิบัสขนาด 20-25 ที่นั่ง ไม่น่าจะต่ำกว่า 25 คัน เพื่อให้ครอบคลุมทุกเส้นทางและเพื่อให้เกิดความถี่ในการให้วิ่งให้บริการมากขึ้น โดย อบจ.ตั้งใจที่จะนำมาให้บริการประชาชนชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวให้ได้โดยเร็ว