กระบี่ - ชาวบ้านสุดทน! ร้องถนนสายเขาพนม-ทุ่งใหญ่ ช่วงควนยาว-บ้านควรเจริญ หมู่ที่ 10 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จ.กระบี่ พังเสียหายเป็นวงกว้างนานกว่า 2 ปี ไม่มีการซ่อมแซม วอนอย่ารอให้เกิดอุบติเหตุตายหมู่แล้วค่อยมาแก้ไข
วันนี้ (15 ก.พ. ) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบถนนสายเขาพนม-ทุ่งใหญ่ ช่วงควนยาว-บ้านควรเจริญ หมู่ที่ 10 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นถนน 2 เลน หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ และผู้ใช้รถใช้ถนน ว่า ถนนพังเสียหายอย่างหนัก เบื้องต้นพบว่าข้างถนนบริเวณดังกล่าวมีดินสไลด์จนทำให้ถนน 1 เลน เกิดรอยร้าว โดยชาวบ้านบอกว่า หลังเกิดดินสไลด์ ทำให้ถนนใช้สัญจรได้แค่เพียงเลนเดียวเท่านั้น การขนส่งพืชผลทางการเกษตรเกิดความล่าช้าเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้าน
โดยชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมานานกว่า 2 ปี ไร้หน่วยงานของภาครัฐเข้ามาดูแลแก้ไข ปล่อยให้ถนนพังกว้าง10 เมตร ลึกไม่ต่ำกว่า 5 เมตร ช่วงที่ถนนพังมีการติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบเตือนอันตราย เพื่อบอกว่าข้างถนนชำรุด และมีการวางกรวยยางเพื่อป้องกันอุบติเหตุ และจากการเดินลงตรวจสอบด้านล่างที่ถนนพังทลายนั้น พบว่า เกิดจากน้ำที่ไหลมาจากอีกฝั่งของถนนซึ่งเป็นควนสูง น้ำไม่สามารถไหลผ่านท่อที่มีขนาด 100-120 ซม.ได้ทัน ทำให้เกิดน้ำกัดเซาะหน้าดินจนขอบถนนเกิดการพังทลายเป็นวงกว้างและมีความลึก จนสร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านในพื้นที่ และผู้ที่สัญจรไปมาถนนสายดังกล่าว
นายจุฬา รำเภย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จ.กระบี่ กล่าวว่า การสัญจรและการใช้ถนนช่วงดังกล่าวชาวบ้านมีความเดือดร้อนมาก ทางหน่วยงานของภาครัฐ หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เข้ามาดูแล ปล่อยให้ถนนชำรุดและเกิดความเสียหาย น้ำกัดเซาะจนดินขอบถนนพังทลายอย่างน่ากลัว และขยายตัวเป็นวงกว้างออกไปเรื่อยๆ จนทำให้ถนนสามารถใช้งานได้เพียงเลนเดียวเท่านั้น อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไข ไม่ใช่รอให้ชาวบ้านเสียชีวิตก่อน แล้วค่อยเข้ามาดำเนินการแก้ไข
ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านต้องช่วยกันดูแลความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ผ่านไปมาด้วยการโบกรถ เมื่อมีฝนตกหนัก เมื่อมีรถเยอะ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้น เพราะชาวบ้านในพื้นที่รู้ดีว่าหากเกิดอุบติเหตุรถตกถนนเมื่อไร่เสียชีวิตอย่างแน่นอน ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตหมู่
ขณะที่นายเจษฎา ทองขาว ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ขับรถผ่านไปผ่านมา จากฤดูฝนที่ผ่านมา 4 เดือน มาเข้าสู่ฤดูแล้วอีกครั้งหน่วยงานรัฐไม่เข้ามาซ่อมถนนช่วงที่พังดังกล่าวเลย ซึ่งมันอันตรายมาก มาติดกรวยกับสัญญาเตือนอันตรายถนนพัง สัญญาณไฟกะพริบก็จริง แต่กรวยที่ติดตั้งนั้นรถชนพังทุกวัน สัญญาณไฟกะพริบกลางคืนไฟติดบ้างไม่ติดบ้าง แล้วชาวบ้านจะมีความปลอดภัยอย่างไร เพราะชาวบ้านต้องใช้ถนนผ่านช่วงดังกล่าวทุกวันทุกคืน รถที่วิ่งบนถนนก็มากอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นรออยู่ทุกวัน อยู่ที่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่หรือคนต่างถิ่นเท่านั้น จะเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยหรืออุบัติเหตุหมู่ หรือตายหมู่เท่านั้นเอง
ที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐมาดูแล้วก็กลับไป คนที่เดือดร้อนคือชาวบ้านในพื้นที่ที่ต้องระวังตัวเองตลอดเวลาเมื่อขับรถผ่านจุดดังกล่าว ซึ่งการเดินทางทำมาหากินลำบากมาก จุดดังกล่าวเป็นอันตรายต่อชาวบ้านในพื้นที่และผู้ที่ใช้รถใช้ถนน เพราะถนนสายนี้มีรถมาก รถขนาดเล็กขนาดใหญ่ และรถวิ่งด้วยความเร็ว ประกอบกับช่วงที่ถนนพังเป็นช่วงโค้งและเป็นควนด้วย อันตรายและอุบัติเหติที่จะเกิดขึ้นมีสูงมาก อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาซ่อมแซม